กระแส ‘เบรนร็อต’ Brainrot คอนเทนต์ออนไลน์ที่เจอกันบ่อย ๆ ในแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น อย่าง TikTok ที่มีลักษณะเป็นคลิปวนลูปซ้ำ ๆ เต็มไปด้วยมีมหรือเสียงที่ดูไร้สาระ จนติดหู ติดตาแต่คอนเทนต์คลิปแบบนี้แล่ะ ที่กลับสร้างความบันเทิงและกลายเป็นไวรัลได้รวดเร็ว
โดยคำว่า Brainrot แม้จะแปลตรงตัวว่า ‘สมองเน่า’ แต่ในเชิงวัฒนธรรมชาวโซเชียล สิ่งนี้กลับหมายถึงการเสพคอนเทนต์จน ‘เบลอ ๆ มึน ๆ’ แต่ยังรู้สึกสนุก เพลิดเพลิน และหยุดดูไม่ได้
ขณะที่ในมุมการตลาด Brainrot คือ กลยุทธ์สร้างการจดจำ ผ่านความแปลก ขำขัน และการตัดต่อแบบ ‘ไร้เหตุผล’ ที่เข้ากับพฤติกรรม Gen Z และ Gen Alpha ซึ่งชอบคอนเทนต์เร็ว กระชับ และแชร์ง่าย
[อยากปล่อยสมองให้โล่ง]
สำหรับกระแส Brainrot เกิดจากแพลตฟอร์ม TikTok ช่วงปี 2023–2024 มีต้นทางจากวิดีโอสั้นที่เต็มไปด้วย มีม เสียงแปลก ๆ และภาพตัดต่อแนววุ่นวาย (chaotic edit) ที่เข้ามาสร้างความตลกหลุดโลก และไวรัล แพร่กะจายไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบเสพคอนเทนต์แบบ ‘ไร้สาระแต่ดูเพลินจนหยุดไม่ได้’
[แล้วทำไมกระแสนี้ฮิตในเจนฯZ]
เทรนด์ Brainrot ที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ ยังสะท้อนความเป็นเหล่าเจนเนอเรชั่นซี Gen Z ด้วยไม่ยึดติดกับกรอบการสื่อสารแบบเดิม ๆ ต้องการทุกอย่างรวดเร็ว ฉับไว ดูแล้วเข้าใจในทันที
ขณะที่ การผสมผสาน เสียงแปลก ๆ มาพร้อมตัวละครมีม และคำพูดติดหู ทำให้เป็นคอนเทนต์ที่แชร์ง่าย กลายเป็นเครื่องมือ ‘ภาษากลาง’ ของคนรุ่นใหม่ในการสื่อสารและแสดงออกถึงความเป็นตัวเอง
[ไร้สาระนะแต่ก็เพลินอ่ะ]
แล้ว Brainrot คืออะไร?!? จากบริบทในข้างต้นอาจจำกัดความได้ว่า ‘Brainrot’ คือ คอนเทนต์แนว ‘ทำให้สมองเบลอเพราะเสพมากเกินไป’ แต่ในเชิงบวกหมายถึงคอนเทนต์ที่ ติดหู ติดตา ง่ายต่อการจดจำ มักเป็นวิดีโอสั้นที่ใช้เสียงวน ๆ ภาพซ้ำ ๆ หรือมีมที่ดูขัดแย้งแต่สนุก
โดยแก่นสำคัญ คือ ความครีเอทีฟแบบไม่มีเหตุผลตายตัว
[แบรนด์สินค้าหยิบมาเล่นใหญ่]
ต่อกระแสที่เกิดขึ้นและไวรัลอย่างรวดเร็วในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทำให้สินค้า แบรนด์ ต่าง ๆโดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าแนวร่วมสมัยที่แม้จะมีอายุเก่าแต่ไม่ยอมขอแก่ ต่างหยิบเอากระแสนี้มาใช้ในการทำตลาดด้วยเช่นกัน
เห็นได้จากหลายแบรนด์ใหญ่เริ่มนำ Brainrot มาเล่น อย่าง
- Pepsi ในช่วงที่ผ่านใช้กลยุทธ์ ‘Brainrot’ เพื่อเป็นการปรับตัวของแบรนด์ให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่คุ้นเคยกับสื่อและเนื้อหาที่สั้น กระชับ และมีความเป็นชาวเน็ทติเซ่นสูง โดยร่วมมือกับครีเอเตอร์ และ เหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์ ที่นอกจากโปรโมตสินค้าแล้วยังร่วมมือกันตั้งแต่ขั้นตอนการสร้างสรรค์เนื้อหา ทำให้โฆษณาที่ออกมามีความเป็นธรรมชาติและตรงกับภาษาและวัฒนธรรมของชุมชนออนไลน์มากขึ้น อย่างมีม Messi Pepsi
- McDonald’s หยิบกระแส Brainrot มาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดเพื่อมีส่วนร่วมกับคนรุ่นใหม่ในหลากหลายคลิปสั้น รวมถึงในแคมเปญ ‘WcDonald’s’ ที่เป็นการเปลี่ยนโลโก้จากตัว M เป็น W และสร้างโลกเสมือนจริงที่อิงจากวัฒนธรรมอนิเมะและมังงะ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มที่คุ้นเคยกับกระแสนี้เป็นอย่างดี
ทีนี้ ลองกลับมาฝั่งแบรนด์และการตลาดไทยในเวลานี้ด้วย KFC ไทย ได้สร้างคาแรกเตอร์ ‘ชิซซาลูลู่’ พร้อมเพลงติดหู ‘ชิซซาลูลู่ ชิซาลาลา’ เพื่อแนะนำสินค้าเมนูใหม่ภายใต้กลยุทธ์ Product Innovation อย่าง ‘ชิซซ่า’ พิซซ่าไก่กรอบฮอทแอนด์สไปซี่ มาขอชิงส่วนแบ่งกระเพาะในกลุ่มผู้บริโภคคนรุ่นใหม่
อ่านบทความอื่น ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากแบรนด์เคเอฟซี แล้ว ในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย อย่างเฟซบุ๊ค และ ติ๊กต๊อก เองก็มีไวรัลคอนเทนต์ที่คล้ายคลึงกับเทรนด์ ‘Brainrot’ ซึ่งครีเอทผ่านครีเอเตอร์ไทย อย่างช่อง โจ๊ก IScream ผ่านคอนเทนต์เพลง ‘My Name Is Brian’ ที่มีเนื้อเพลงซ้ำ ๆ ไม่มีโครงสร้างเรื่องราว
แต่ใช้ประโยคเด็ดจากมีมไวรัลอย่าง ‘My Name Is Brian, I’m 24 years old, I’m from Korea’ ถือเป็นการใช้กลยุทธ์ที่สอดคล้องกับปรากฏการณ์ ‘Brainrot’ เพื่อดึงดูดความสนใจของชาวโซเชียลในปัจจุบัน
โดยหลังเพลงดังกล่าว ถูกปล่อยออกมาผ่านสื่อโซเชียลแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้จากเหล่า Netizen เมื่อได้ฟังเพลงนี้แล้วยังมาพร้อมกับคอมเมนต์หยอกล้อเจ้าของช่อง โจ๊ก IScream ที่ส่วนใหญ่มีมติเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า “คำพูดมากมายแต่ความหมายไม่มี” (ในเนื้อเพลง) แต่ทำไงได้เพลงนี้ ก็ติดหูไปเสียแล้ว พร้อมจดจำเจ้าของช่องไปโดยปริยาย อีกด้วย
[ไม่อยากตีความแต่ทำให้จำได้]
จากกระแสที่เกิดขึ้นจนนำไปสู่กลยุทธ์ ‘Brainrot Marketing’ ที่มีจุดเด่นจากความไร้สาระ หรือความตลกแบบเหนือจริง (Absurdity/Surrealism) ด้วยเนื้อหาที่ไม่มีความหมายชัดเจน หรือไม่มีความจำเป็นต้องมีเนื้อเรื่อง กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ฟังหรือผู้ชมไม่ต้องใช้พลังงานในการตีความ และสามารถเสพความตลกจากความ ไม่สมเหตุสมผล ได้ทันที แถมยังต่อยอดไปสู่การสนทนาในเชิงไวรัลได้อีกในหลายต่อ
นอกจากนี้ยังเป็นไวรัล คอนเทนต์ มาร์เก็ตติ้ง ที่แพร่กระจายรวดเร็วในเหล่าเจนฯ Z ซึ่งเป็นกลุ่มกำลังซื้อคนรุ่นใหม่ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าบริการในยุคดิจิทัล ที่ชื่นชอบความสั้นฉับไว
โดยในวันนี้ กระแส Brainrot ไม่ได้อยู่แค่กับครีเอเตอร์ แต่กลายเป็น เครื่องมือสื่อสารของแบรนด์สินค้าเพื่อทำตลาดให้โดนใจคนรุ่นใหม่ไปแล้วเช่นกัน
An AI-generated cover image by Google Gemini
Alternate-X สรุปให้
กระแส Brainrot คอนเทนต์วิดีโอสั้นไร้สาระแต่ดูเพลิน กลายเป็นไวรัลบน TikTok หลังชาว Gen Z และ Gen Alpha เสพคลิปวน ๆ มีมแปลก ๆ จนหยุดดูไม่ได้ ขณะที่แบรนด์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Pepsi และ McDonald’s นำมาใช้ทำแคมเปญเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยในไทย KFC ก็ใช้กลยุทธ์ Brainrot เปิดตัวเมนูใหม่ “ชิซซ่า” พร้อมเพลงไวรัลติดหู Brainrot Marketing สะท้อนกลยุทธ์แบรนด์ยุคดิจิทัล ที่เน้นความไร้เหตุผลแต่สร้างการจดจำ