‘ไทยสากล กรุ๊ป’ ที่อยู่มา 50 ปี ถูกเปลี่ยนผ่านสู่มือผู้บริหารรุ่น 2 ‘ปณิธาน กอบกุลสุวรรณ’ กับการขยายธุรกิจใหม่ ๆ ไม่จำกัดแค่ธุรกิจอุตสาหกรรมงานโลหะ เพื่อพาสู่อาณาจักรพันล้านในปี 2569
บริษัท ไทยสากล กรุ๊ป จำกัด ในปี 2568 นี้มีอายุครบ 50 ปีแล้ว จากจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2518 ‘ประวิทย์ กอบกุลสุวรรณ’ เป็นผู้ริเริ่มนำคัทติง ทูล (Cutting Tools) อย่าง ใบเลื่อย วงเดือน และใบมีด จากประเทศญี่ปุ่น มาจำหน่ายให้แก่อุตสาหกรรมไม้ในประเทศไทย โดยก่อตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด ไทยสากล แมชินเนอรี่ เป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าคุณภาพ
ปัจจุบัน ไทยสากล กรุ๊ป เข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิตเต็มตัว จำหน่ายสินค้ากว่า 40 ประเภทธุรกิจ อาทิ กลุ่มงานไม้ โลหะ กระดาษ พลาสติก อิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ
ขณะเดียวกัน ในทศวรรษที่5 ของกิจการยังได้ถูกส่งไม้ต่อการบริหารไปยัง บุตรชายคนโต ทายาทรุ่น 2 ‘ปณิธาน กอบกุลสุวรรณ’ นั่งเก้าอี้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยสากล กรุ๊ป จำกัด กับแนวคิดการบริหารธุรกิจ เพื่อพาองค์กรไปสู่รายได้พันล้านบาท ในปี 2569

DNA ไทยสากล-หยุดนิ่งไม่ได้
ปณิธาน ผู้บริหารรุ่นที่สองของ ไทยสากล กรุ๊ป เชื่อว่าสิ่งที่พาธุรกิจครอบครัวให้ยืนหยัดมากว่า 50 ปี คือ DNA เดียวที่ไม่เคยหายไป คือ ‘ไม่หยุดนิ่ง–ไม่หยุดพัฒนา’ ซึ่ง ‘เขา’ เข้ารับช่วงบริหารต่อมาด้วยแนวคิดว่า ธุรกิจต้อง ‘ปรับตัวเร็วตามเทรนด์ลูกค้า’ พร้อมเดินหน้าใช้เทคโนโลยีใหม่มาเสริมศักยภาพ ด้วยระบบต่าง ๆ อย่าง
- ระบบอัตโนมัติ (Automation)
- เทคโนโลยีเลเซอร์ (Laser Technology)
“เพื่อให้บริษัทเป็น One Stop Service ที่ตอบโจทย์ตั้งแต่นำเข้า–จัดจำหน่าย–ซ่อมบำรุง–ดูแลหลังการขาย”
เขาย้ำว่า ‘บุคลากรกว่า 200 คนคือฟันเฟืองสำคัญ’ ทุกฝ่ายตั้งแต่ผลิตถึงบริการทำงานร่วมกันด้วยความเชื่อ (mindset) แบบเดียวกัน คือ พร้อมพัฒนาและเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำจากเอเชีย ยุโรป และอเมริกา ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพสินค้าและตอบโจทย์อนาคต
โรดแมปธุรกิจ รุ่น2 ไทยสากล กรุ๊ป
สำหรับทิศทางธุรกิจของกลุ่มไทยสากล ภายใต้การบริหารรุ่นใหม่ ‘ปณิธาน’ วางโรดแมปแบบ ‘ขยาย–ต่อยอด–ยกระดับ’ ดังนี้
- ยกระดับเทคโนโลยี ทั้ง Automation, Laser Technology และ 3D Printing
- ขยายฐานลูกค้า ให้หลากหลายขึ้นเพื่อไม่พึ่งพากลุ่มอุตสาหกรรมเดียว
- เพิ่มสินค้าใหม่ในพอร์ต ให้ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะทาง
ขณะเดียวกัน ยังต่อยอดประสบการณ์จากรุ่นแรกสู่รูปแบบธุรกิจใหม่ ผ่านแบรนด์ไลฟ์สไตล์ เพื่อสร้างรายได้หลายช่องทางในอนาคต รวมถึงสร้างบริการครบวงจร ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์แบบ End-to-End กับกลุ่มธุรกิจ ที่ก่อตั้งขึ้นในรุ่นของ ’ปณิธาน’ เช่น
- โรงแรม สไตล์บูติกในชื่อ K Maison Boutique Hotel
- ร้านอาหาร ต่าง ๆ เช่น
- Kay’s ร้านอาหารสไตล์ Brunch
- DAY By Kay’s ร้านอาหาร/เครื่องดื่มและเบเกอรี
- KANORI Hand roll bar ร้านญี่ปุ่นแฮนด์โรลแนวฟิวส์ชันเจ้าแรกในไทย
- KAYAKI ร้านปิ้งย่างเนื้อปลาและซีฟู้ดพรีเมียมสไตล์ญี่ปุ่นเจ้าแรกในไทย
4 กลุ่มหลัก ไทยสากล กรุ๊ป
ขณะที่ ปัจจุบัน ไทยสากล กรุ๊ปประกอบด้วย 4 บริษัทหลัก ที่เป็นกำลังหลักขององค์กร ได้แก่
- Thaisakol Group บริษัทหลักด้านการนำเข้าเครื่องจักรคุณภาพระดับโลก ครอบคลุมเครื่องตัดโลหะ เครื่องตัดอลูมิเนียม เครื่องงานท่อ เครื่องตัดเลเซอร์ และเทคโนโลยี 3D Printing
- Thaisakol B and B ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิต ‘ใบมีดอุตสาหกรรม’ ครบทุกประเภท รองรับตั้งแต่งานไม้ กระดาษ บรรจุภัณฑ์ พลาสติก ไปจนถึงโลหะ
- Thaisakol Service Center ศูนย์บริการลับคมและซ่อมแซมเครื่องตัดที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน รองรับใบมีดทุกประเภททั้ง PCD, Carbide และ HSS
- Thaisakol Machinery ศูนย์บริการหลังการขายและโชว์รูมเครื่องจักร ให้บริการติดตั้ง เทรนนิ่ง ซ่อมบำรุง และเป็น Training Center สำหรับลูกค้า
โฟกัสธุรกิจหลัก-เติมความหลากหลาย
หลังเปลื่ยนมือการบริหารจากรุ่นสู่รุ่นของไทยสากลกรุ๊ป มาสู่มือบริหาร ‘ปณิธาน’ ได้โฟกัสกลยุทธ์ธุรกิจ ใน 5 ด้านสำคัญ 1.Customer-Centric เข้าใจปัญหาจริงของลูกค้าแล้วออกแบบโซลูชันแบบ ‘Winning Solution’, 2. Technology-Driven ใช้เทคโนโลยีใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพสินค้า
ด้านที่ 3. Partnership Ecosystem จับมือแบรนด์ระดับโลกเพื่อรักษามาตรฐานสินค้า, 4. Service Excellence เน้นบริการครบวงจรตั้งแต่นำเข้า ซ่อมบำรุง ไปจนถึงการให้คำแนะนำ และ 5. Diversification กระจายธุรกิจทั้งฝั่งอุตสาหกรรมและไลฟ์สไตล์ เพื่อให้บริษัทเติบโตอย่างมั่นคง
แผนสู่รายได้ 1,000 ล้านบาท
ขณะที่ ปัจจุบันรายได้รวมของเครืออยู่ที่ 800 ล้านบาท และในปี 2569 ตั้งเป้าทะลุ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำผ่าน 4 แนวทางหลักสำคัญ คือ 1. ขยายการนำเข้าเครื่องจักรและเทคโนโลยีใหม่เพิ่มสินค้าไฮเทคเพื่อเจาะตลาดเฉพาะทางที่มีมาร์จินสูง, 2. เพิ่มขีดความสามารถของศูนย์บริการ ให้บริการที่เร็วและครอบคลุมมากขึ้น เพื่อสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income), 3. ขยายสาขาและเปิดแบรนด์ใหม่ในกลุ่ม Hospitality–F&B ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารเติบโตเร็ว มีแผนเปิดสาขาเพิ่มและต่อยอดสินค้าใหม่ และ4. สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าองค์กร ด้วยบริการหลังการขาย–เทรนนิ่ง–บริการลับคม เพื่อให้ลูกค้าอยู่กับบริษัทในระยะยาว
Alternate-X สรุปให้
ไทยสากล กรุ๊ป อายุครบ 50 ปี ก้าวสู่ยุคใหม่ภายใต้การบริหารของ ปณิธาน กอบกุลสุวรรณ ทายาทรุ่นสอง เขาต่อยอดแนวคิด ‘ไม่หยุดนิ่ง–ไม่หยุดพัฒนา’ จากรุ่นผู้ก่อตั้ง มายกระดับธุรกิจด้วยเทคโนโลยี Automation และ Laser พร้อมวางโรดแมปขยายฐานลูกค้า เพิ่มสินค้าใหม่ และต่อยอดสู่ธุรกิจไลฟ์สไตล์ เช่น โรงแรมและร้านอาหาร โดยกลุ่มธุรกิจหลักทั้ง 4 บริษัท ยังคงเป็นแกนสำคัญในการขับเคลื่อนรายได้ และสร้างบริการครบวงจร เป้าหมายใหญ่ปี 2569 คือผลักดันรายได้สู่ 1,000 ล้านบาท ผ่านกลยุทธ์เทคโนโลยี–บริการ–การขยายธุรกิจหลายมิติ




