ในปีนี้เศรษฐกิจชะลอตัว ‘นันยาง’ ห่วงกำลังซื้อผู้ปกครอง ย้ำนวัตกรรมเกินคุ้มเจาะตลาดรองเท้านักเรียนไทยมีมูลค่า 5 พันล. ทำรองเท้าแห่งอนาคต เข้าหาเด็กเจน Alpha เน้นใส่สนุกเชือกไม่ต้องผูก
ชัยพัชร์ ซอโสตถิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท นันยางอุตสาหกรรม จำกัด ผู้ผลิตรองเท้านันยาง เปิดเผยว่า จากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอตัวในช่วงนี้ แต่นันยาง ยังมองเห็นโอกาสสร้างการเติบโตผ่านความเข้าใจเชิงลึกในพฤติกรรมผู้บริโภค พัฒนาสินค้าที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ และสร้างความแตกต่างผ่านนวัตกรรมที่ไม่เหมือนใคร
ด้าน ดร.จักรพล จันทวิมล กรรมการผู้จัดการ บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ทำตลาดรองเท้านันยาง กล่าวว่า จากแนวคิดการพัฒนารองเท้านันยางตามความต้องการเชิงลึกผู้บริโภคดังกล่าว ยังนำมาต่อยอดสู่การทำตลาดในช่วงเปิดเทอมปี 2568 นี้
โดยนันยาง จะมุ่งนวัตกรรมสินค้าและความคุ้มค่า เพื่อตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคเศรษฐกิจชะลอตัว พร้อมพัฒนารองเท้าเพื่อรองรับความต้องการของเด็กนักเรียนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดรองเท้าเด็กกลุ่ม Gen Alpha หรือชั้นประถม
ล่าสุด นันยางได้ออกแบบรองเท้ารุ่น “Nanyang Have Fun” คุณสมบัติเบา นุ่ม และสวมใส่สบายเหมาะกับสรีระของเด็กเล็ก พร้อมนวัตกรรมสำคัญในช่วงโควิด-19 ด้วยการพัฒนา ‘เชือกยืดหยุ่น’ ทำให้ไม่ต้องผูกเชือกอีกต่อไป ลดการสัมผัสเชื้อโรคจากรองเท้า 10 เท่า
สำหรับการเปิดเทอมปีการศึกษา 2568 นันยางได้เปิดตัว ‘เชือกยืดหยุ่น 2.0’ พร้อมฟังก์ชันพิเศษ ‘ล็อก – ปลดล็อก’ เพิ่มความคล่องตัว ตอบโจทย์ทุกกิจกรรมการเรียนและการเล่น
พร้อมกันนี้ นันยาง ยังได้แนะนำสินค้าเก่าในรูปแบบใหม่ โดยนำรองเท้าที่ไม่ผ่านมาตรฐานด้านความสวยงามแต่ยังคงคุณภาพการใช้งาน 100% กลับมาจำหน่ายใหม่ในราคาพิเศษ ได้แก่
- Nanyang Retake (มีตำหนิจากการผลิต) ราคา 269 บาท
- Nanyang Retry (มีรอยเปรอะเปื้อน) ราคา 169 บาท
ดร. จักรพล กล่าว “เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง และตอบโจทย์สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันและลดของเสียจากกระบวนการผลิต และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิด Circular Economy ในโครงการ Nanyang Reborn” พร้อมเสริมว่า
“คาดการณ์ว่าโครงการ Nanyang Reborn จะสามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 140,000 kgCO₂e เสมือนการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ของต้นไม้ 7,000 ต้นในหนึ่งปี หรือการขับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันระยะทางรอบโลกได้ 20 รอบ”
ทั้งนี้ นอกจากการสร้างทางเลือกที่คุ้มค่าให้ผู้บริโภค ยังเป็นการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ขยายวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ สนับสนุนการผลิตและบริโภคที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น และเป็นอีกก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนแนวคิด Circular Economy ของนันยางให้เป็นรูปธรรม อีกด้วย
ดร. จักรพล กล่าวว่า สำหรับช่องทางการขาย นันยาง วางจำหน่ายสินค้าผ่านทั้งร้านค้าทั่วประเทศ ห้างสรรพสินค้า และช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกประเภท เพื่อรองรับพฤติกรรมการซื้อสินค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้สะดวก พร้อมรับสิทธิพิเศษและโปรโมชันตามแต่ละช่องทาง เพื่อเพิ่มประสบการณ์การซื้อที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล
จากแผนดังกล่าว บริษัทฯ วางเป้าหมายเติบโตต่อเนื่องที่ 3-5% ในปีนี้ จากปัจจุบันนันยาง ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ1 ด้วยส่วนแบ่ง 45% ของตลาดรองเท้านักเรียนคาดมีมูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท
ขณะที่ตลาดรองเท้านักเรียนไทยมีผู้เล่นหลักประมาณ 10-15 ราย ใน และมีผู้เล่นรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 5 รายในช่วงปีที่ผ่านมา
Alternate-X สรุปให้
นันยางรับมือเศรษฐกิจชะลอตัว ด้วยนวัตกรรมรองเท้านักเรียน “Nanyang Have Fun” เจาะกลุ่มเด็ก Gen Alpha ด้วยเชือกยืดหยุ่นไม่ต้องผูก ลดการสัมผัสเชื้อโรค พร้อมเปิดตัวเวอร์ชัน 2.0 ล็อก-ปลดล็อกได้ เสริมสินค้า Retake และ Retry ราคาประหยัด เพื่อลดของเสียและส่งเสริม Circular Economy คาดลดคาร์บอนกว่า 140,000 kgCO₂e ตั้งเป้าเติบโต 3-5% ปีนี้จากตลาด 5 พันล้านบาท