‘ครีเอเตอร์’ เข้าสู่ยุคใหม่ แบรนด์ไม่สนยอดฟอล-ขอคุณภาพ ‘รีวิว’ โตแรง-วัย 45+ เข้าตลาดอินฟลูฯเพิ่ม

เทลสกอร์ มองปี 69 ยังไม่อวสานอินฟลูฯ แต่ต้องปรับทักษะหลังเอไอมาเป็นผู้ช่วยไลฟ์ขาย 24 ชั่วโมง ชี้เข้าสู่ยุค ‘คอมมูนิตี้’ ลูกค้าโหยหา ‘ฮิวแมน ทัช’ ความเชื่อใจ

 

สุวิตา จรัญวงศ์ ประธานกรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทเทลสกอร์ จำกัด กล่าวว่า ในปี 2568 -2569 เศรษฐกิจยังมีความท้าทาย แน่นอนว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ ดิจิทัล (Digital Creator) ของไทย ซึ่งในยุคถัดไปจากนี้ เหล่าครีเอตอร์จะเข้าสู่การรวมกลุ่มเพื่อสร้างชุมชน (Community) ที่มีความสนใจเฉพาะด้าน หลังจากปัญญาประดิษฐ์ AI เข้ามามีบทบาทในฐานะผู้ช่วยครีเอเตอร์ แบรนด์สินค้า ในการทำตลาดออนไลน์มากขึ้น

 

 

“เมื่อเอไอเข้ามา ผู้คนจะมองหาความเชื่อมั่น Trust Factor หรือความเป็นมนุษย์แท้ Human Touch มากขึ้น ซึ่งครีเอเตอร์ และแบรนด์จะต้องเชื่อมโยงระหว่างเอไอในฐานะผู้ช่วยทำหน้าที่ไลฟ์ขายสินค้า ขณะที่คนจริงจะเข้ามาสนับสนุนผ่านคอมมูนิตี้”

 

อวสานอินฟูลฯ ?

 

 

สุวิตา กล่าวต่อถึงแนวโน้มการสิ้นสุดของเหล่าอินฟูลเอ็นเซอร์ หรือ ผู้มีอิทธิพลในสื่อโซเชียลต่อกลุ่มเป้าหมายในสื่อสังคมออนไลน์ในช่วงที่ผ่านมา อาจแบ่งสถานการณ์ได้ออกเป็น 2 ประเด็น คือ

 

1.การเติบโตตลาดอินฟลูเอ็นเซอร์ เริ่มอิ่มตัว (Mature) และจะเผชิญกับท้าทายมากขึ้นเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา จากการเข้ามาของเอไอ ในฐานะเครื่องมือช่วยไลฟ์ขายสินค้าแทนมนุษย์ โดยแนวทางออกในด้านนี้ คือ การทำคอนเทนต์เพื่อส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งมองว่าคอนเทนต์กลุ่มท่องเที่ยวจะมีแนวโน้มขยายตัวสูงในอนาคต เช่นที่ผ่านมา มีการผลิตคอนเทนต์การท่องเที่ยวญี่ปุ่นและไทย จากครีเอเตอร์ต่างๆ

 

 

“มนุษย์อาจต้องปล่อยให้เอไอ ทำงานไลฟ์แทนได้แบบ 24 ชั่วโมง ขณะที่คนหรือเจ้าของสินค้า จะทำหน้าที่คิดคอนเทนต์ สร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ ซึ่งเป็นจุดเด่นของครีเอเตอร์ไทย เพื่อทำงานร่วมกับแบรนด์”

 

 

2.การเติบโตตลาดรีวิว (Reviewing) จะขยายความต้องการด้านความเชื่อมั่นมนุษย์ (Human Touch) เพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกับเอไอเช่นกัน ในรูปแบบการสนับสนุน เอไอ ครีเอเตอร์ (Support AI creator)

 

“ปี68 เริ่มมีแบรนด์ จ้างครีเอเตอร์ตรงโดยเฉพาะกลุ่มไมโครอินฟลูฯ กว่าร้อยคนในการทำงานร่วมกันมากขึ้น  เพื่อให้ผลิตคอนเทนต์ออกมาจากนั้นอาจมีการซื้อขาดค่าคอนเทนต์ในครั้งเดียว เพื่อแบรนด์นำไปใช้ซ้ำได้ต่อไปเรื่อย ซึ่งเป็นแนวทางการลดต้นทุนของแบรนด์ในปีนี้”

 

 

 

จำนวนยอดฟอลไม่ใช่ประเด็น

 

 

นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มน่าสนใจระหว่างการทำงานของแบรนด์สินค้าร่วมกับอินฟลูฯ ในขณะนี้ คือ  ‘ความยากขึ้น’ ในการสร้างยอดขายสินค้าจากการไลฟ์ที่ไม่ได้จากมืออาชีพ หรือ เป็นผู้มีประสบการณ์ ทักษะการขายมาก่อนหน้า

 

 

“หากเป็นอินฟลูฯหน้าใหม่ไม่มีทักษะการขาย หรือปากแจ๋วมาก่อน การจะไลฟ์ให้ได้ยอดขายเข้ามาราว 5,000 บาทต่อเดือนไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว”

 

 

อย่างไรก็ตาม หากทำวิดีโอ คลิป ติดตระกร้าสินค้าในช่องของตัวเองจะยังได้การตอบรับดีอยู่ในตลาดโซเชียลคอมเมิร์ซ ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตค่อนข้างจริงจังในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตลาดนี้ยังมีความแตกต่างไปจากจีนที่มีการเติบโตของตลาดอินฟลูเอ็นเซอร์ มากกว่า

 

สุวิตา กล่าวต่อ ถึงการเกิดขึ้นของครีเอเตอร์ ซับ-คัลเจอร์ ที่กำลังเข้ามามีบทบาทและเติบโตในปัจจุบัน ขณะที่จำนวนผู้ติดตามช่องต่าง ๆ ที่มีอยู่กำลังจะลดลด ตามพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่มีความเป็นปัจเจกและอิสระ (Independent) มากขึ้น ขณะที่แบรนด์จะมองว่ายอดผู้ติดตามหลัก5-10 ล้านฟอลโลว์เออร์ ไม่ใช่ประเด็น โดยแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์อย่าง ติ๊กต็อก, ยูทูบ ที่ใช้คอนเทนต์วิดีโอยังครองตลาดอยู่

 

 

“ตลาดนี้ยังมีความเช็กซี่ อยู่ที่ครีเอเตอร์ไทยจะไปหาน่านน้ำใหม่ที่แตกต่างในการสร้างตัวตนเพื่อทำตลาด และในเร็วๆนี้อาจจะได้เห็นแพลตฟอร์มสื่อโซเชียลและอีคอมเมิร์ซจีน เสี่ยวหงซู (Xiaohongshu) เข้ามาตั้งสำนักงานทำตลาดในไทย”

 

 

4 กลุ่มครีเอเตอร์มาในปี2569

 

 

สำหรับแนวโน้มอินฟลูฯ ที่มาแรงในปี 2569 มี 4 กลุ่มน่าสนใจ คือ

 

  • กลุ่มเด็ก (Childs)
  • กลุ่มสัตว์เลี้ยง (Pets)
  • กลุ่มนักข่าว (News Creator)
    • สายนักวิเคราะห์ (Openion) แสดงความคิดเห็นต่อประเด็น, สถานการณ์ในกระแส
  • กลุ่มวัฒนธรรมย่อย (Sub-Culture) บอกเล่าเรื่องราวเฉพาะกลุ่มตามความสนใจนั้นๆ

 

ขณะที่ แนวทางกลุ่มคอนเทนต์ผลิตภัณฑ์ที่เติบโตในปีหน้า อาทิ สายสุขภาพเพื่อชีวิตยั่งยืน (Longevity)  เพื่องรองรับการเป็นจุดหมายปลายทางด้านบริการทางการแพทย์และสุขภาพของไทย , สายการเงิน, เครื่องสำอาง, ท่องเที่ยว เป็นต้น

 

 

อินฟลูฯ รุ่นใหญ่เข้าตลาดเพิ่ม

 

 

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจและการทำตลาดในด้านต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ครีเอเตอร์ไทยจะต้องไม่ยอมแพ้ ใช้ความอดทนเพื่อยืนต่อไปในระยะยาว พร้อมเปิดใจรับฟังและพัฒนาตัวเองต่อไป เพื่อเสริมจุดเด่นด้านความคิดสร้างสรรค์ ของครีเอเตอร์ไทยที่แตกต่างไปจากประเทศอื่น

 

สุวิตา กล่าวต่อถึงแนวโน้มเกษียณอายุงานในอายุ 45 ปี อาจเป็นปัจจัยผลักดันให้คนวัยทำงานตอนกลาง-ปลายอายุ 40-45 ปี เข้าสู่ตลาดอินฟลูฯ ในฐานะครีเอเตอร์เข้ามาสร้างช่องเกี่ยวกับเนื้อหาบอกเล่า ประสบการณ์มีจำนวนเพิ่มขึ้น เช่นกัน โดยตลาดอินฟลูฯ ในปี 2568 คาดมีแนวโน้มเติบโต 15% จากในปี 2567 มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 20%

 

 

 

ความท้าทายเอไอ-ภาษา

 

สุวิตา กล่าวต่อ ถึงแนวโน้มการข้ามาของเอไอ อาจจะยังได้เห็นภาคต่อในอนาคตการเกิดขึ้น ‘AgenticAI’ ในฐานะผู้ช่วยแบรนด์ทั้งการโต้ตอบติดต่อระหว่างซัพพลายเออร์ หรือ เปิด/ปิดการขายได้นั้น  ซึ่งจะอยู่ที่ว่า “ใครจะเปิดหัวหาดก่อน” ซึ่งรวมไปถึงการใช้ Autonomous AI ปัญญาประดิษฐ์อัตโนมัติ ซึ่งในประเทศจีน เริ่มนำมามีบทบาทในการขายสินค้าแล้ว

 

จากสถานการณ์ดังกล่าว ยังจะเข้ามามีบทบาทสูงขึ้นในสังคมสื่อออนไลน์ประเทศไทยนับจากนี้ ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งครีเอเตอร์ แบรนด์ แพลตฟอร์ม รวมถึงหน่วยงานรัฐที่กำกับดูแลในเบื้องต้น ยิ่งต้องมีส่วนร่วมในการผลิตคอนเทนต์เพื่อรับผิดชอบต่อสังคมอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือ บิดเบือน (Fake News) ที่กระจายสู่สาธารณะ

 

นอกจากนี้ ยังรวมถึงความรับผิดชอบส่วนตัวของครีเอเตอร์ และ กลุ่มวิชาชีพสื่อ ที่จะไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา (IP) จากใช้เนื้อหาข้อมูลของอีกฝ่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตระหว่างกัน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ของช่องตัวเอง เป็นต้น

 

ขณะที่ความท้าทายของการสร้างสรรค์คอนเทนต์เพื่อการส่งออกของครีเอเตอร์ไทย คือ ‘ด้านภาษา’ ที่จะต้องเร่งพัฒนาทักษะเฉพาะตัวอย่างต่อเนื่อง ไปพร้อมกับความเชี่ยวชาญการใช้คำสั่งชุดข้อมูลของเอไอ (AI Prompt) เพื่อนำมาใช้ร่วมกับการพัฒนาคอนเทนต์ในอนาคต

 

 

Alternate-X สรุปให้ 

 

 

ปี 2568–2569 คือจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการครีเอเตอร์ไทย หลังการเข้ามาของ AI เปลี่ยนรูปแบบการสร้างคอนเทนต์และการขายสินค้า ขณะที่ครีเอเตอร์ต้องสร้างความเชื่อมั่น (Trust Factor) และความเป็นมนุษย์มากขึ้น โดยเทรนด์ใหม่ คือ คอมมูนิตี้เฉพาะกลุ่มและคอนเทนต์ส่งออกสู่ตลาดโลก งานนี้ แบรนด์และครีเอเตอร์ต้องทำงานร่วมกับ AI เพื่ออยู่รอดในตลาดอนาคต

 

 

 

บทความล่าสุด

COLLABORATE IDEAS, CREATE SUCCESS


FOLLOW US

© 2024 Maxideastudio. All Rights Reserved.