ตลาดแว่นตาของอาเซียนในอีก 10 ปีหน้าจะเติบโตราว 4 แสนล้านบาท ส่วนในไทยมีมูลค่า 1.24 แสนล้านบาทภายในปี 2573 ด้วยอัตราการเติบโต 11.6% ต่อปี และเป็นโอกาสธุรกิจแว่นตา
มร.เว่ย พาน ประธานคณะกรรมการจัดงาน บริษัท ดอนเนอร์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นผู้จัดงานแสดงสินค้ามืออาชีพระดับนานาชาติที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนานกว่า 23 ปี ในอุตสาหกรรมแว่นตา ล่าสุดเตรียมจัดงานครั้งแรกในประเทศไทย ‘ASEAN Int’l Optics Fair’ งานแสดงสินค้าและสัมมนาระดับนานาชาติด้านแว่นตาและสายตาที่ครบวงจรที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
โดยงานฯ จะรวบรวมแบรนด์ ผู้ประกอบการด้านแว่นตา เลนส์ บรรจุภัณฑ์ และอุปกรณ์ชั้นนำทั่วโลกกว่า 200 ราย เพื่ออัปเดต เทรนด์และนวัตกรรมต่าง ๆ รวมถึงเวทีเจรจาธุรกิจระดับนานาชาติ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้อุตสาหกรรมสายตาและแว่นตาในภูมิภาคอาเซียนให้แข็งแกร่งและเติบโตยิ่งขึ้น โดยจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 9 – 11 ตุลาคม 2568 ณ ฮอลล์ 5-6 อิมแพ็ค เมืองทองธานี บนพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร คาดมีผู้เข้าร่วมงานทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศกว่า 5,000 ราย
“ในปีนี้ ได้ร่วมกับบริษัท บรอด อินเตอร์เนชันแนล จำกัด พร้อมจัดงาน ASEAN Int’l Optics Fair ครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการเข้าสู่ตลาดแว่นตาในภูมิภาคอาเซียน เพื่อตอบรับกับการเติบโตทางธุรกิจและจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นของภูมิภาค และยังมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างบทบาทของประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมแว่นตาของภูมิภาค พร้อมทั้งส่งเสริมการสร้างรายได้ผ่านการท่องเที่ยว โลจิสติกส์ และการจ้างงานอีกด้วย”
มร.เว่ย กล่าว
มร.เว่ย เสริมว่าในปี 2546 บริษัทฯ ได้เปิดตัวงาน Wenzhou Int’l Optics Fair (WOF-Wenzhou) ซึ่งปัจจุบันถือเป็นเวทีสำคัญของอุตสาหกรรมแว่นตาในประเทศจีน และยังเป็นงานแสดงสินค้างานแรกในมณฑลเจ้อเจียงตอนใต้ที่ได้รับการรับรองจากสมาคมอุตสาหกรรมแสดงสินค้าระดับโลก (The Global Association of the Exhibition Industry หรือ UFI) ปัจจุบัน Wenzhou Int’l Optics Fair ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมแว่นตาที่ใหญ่ที่สุดสามอันดับแรกของโลก
ขยายการค้าไทย-จีน
ด้าน มร.เจี้ยนหมิน อู๋ ประธานสมาคมอุตสาหกรรมแว่นตาแห่งมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน และผู้สนับสนุนหลักของงาน ASEAN Int’l Optics Fair กล่าวถึงภาพรวมของการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศไทยและประเทศจีนว่า ปี 2568 เป็นปีครบรอบ 50 ปี แห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและจีน จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ โดยจีนเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยติดต่อกันถึง 12 ปี ตั้งแต่ปี 2556 ถึง 2567
โดยในปี 2567เพียงปีเดียว มูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศอยู่ที่ 94,919.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 8.2% และด้วยศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้มีการจัดงาน ASEAN Int’l Optics Fair ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
หนุนอุตฯแว่นตา ขยายตัว
ด้าน ดร.ดนัย ตันเกิดมงคล ประธานสภาทัศนมาตรศาสตร์แห่งเอเชีย และทำหน้าที่นายกสมาคมทัศนมาตรแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ASEAN Int’l Optics Fair เป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญของหน่วยงานทางวิชาชีพ องค์กรชั้นนำในอุตสาหกรรมแว่น และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย
- ดอนเนอร์ เอ็กซิบิชั่น
- บรอด อินเตอร์เนชันแนล
- สมาคมอุตสาหกรรมแว่นตาแห่งมณฑลเจ้อเจียง
- สมาคมทัศนมาตรแห่งประเทศไทย
- สมาพันธ์อุตสาหกรรมแว่นตาเกาหลี (KOIC)
- สถาบันการจัดการสายตาแห่งเอเชีย (AOMA)
- อาย แวลลีย์ (Eye Valley)
ทั้งนี้ เพื่อสร้างโอกาสทางการเติบโตทั้งในทางวิชาการและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ครั้งสำคัญให้กับอุตสาหกรรมดังกล่าวในประเทศไทยขยายตลาดสู่อาเซียน ซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่เติบโตสูงสุดในโลก ตลอดจนมีความต้องการแว่นตา การดูแลสายตา และเทคโนโลยีด้านสายตาอัจฉริยะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตลอดการจัดงานตั้งเป้ามีผู้เข้าร่วมกว่า 5,000 คน จากทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากนี้ภายในงานแถลงข่าว ยังมีเวทีเสวนา ‘ทิศทางอนาคตของอุตสาหกรรมแว่นตาในอาเซียน : นวัตกรรม การบูรณาการ และความสามารถในการแข่งขันระดับโลก’ จากผู้ทรงคุณวุฒิด้านอุตสาหกรรมแว่นตามาร่วมพูดคุย
โอกาส-อนาคตตลาดแว่นตาไทย
สมบูรณ์ นำทิพย์จันทาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ISOPTIK ได้พูดถึงภาพรวมของมูลค่าตลาดแว่นตาของอาเซียนว่า มูลค่าตลาดแว่นตาของอาเซียนในปี 2567 มีมากกว่า 200,000 ล้านบาท และในอีก 10 ปีข้างหน้าจะมีการเติบโตอยู่ที่มากกว่า 400,000 ล้านบาท ในขณะที่มูลค่าตลาดแว่นตาของประเทศไทยในปี 2567 อยู่ประมาณ 63,000 ล้านบาท และคาดการณ์ว่า จะเพิ่มเป็น 124,000 ล้านบาท ภายในปี 2573 ด้วยอัตราการเติบโต 11.6% ต่อปี
“การเติบโตดังกล่าว มาจากจำนวนผู้มีปัญหาทางสายตาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีสายตายาวตามวัย และวัยทำงานที่ใช้อุปกรณ์ดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ทำให้มีความต้องการแว่นตาโปรเกรสซีฟ และแว่นตากึ่งโปรเกรสซีฟคุณภาพสูง ที่สบายตาเพิ่มขึ้น รวมถึงการขยายตัวของชนชั้นกลาง ทำให้มีความต้องการแว่นตาแฟชั่นและแว่นสายตาคุณภาพสูงเพิ่มขึ้น”
สมบูรณ์ กล่าว
ต้องเพิ่มบุคลากรเฉพาะทาง
ด้าน ดร.วุฒิพงษ์ พึงพิพัฒน์ อาจารย์พิเศษ สาขาวิชาทัศนมาตรศาสตร์ กล่าวถึงทิศทางของอุตสาหกรรมแว่นตาในอาเซียนว่ามีการเติบโตที่ดีตามความต้องการของผู้บริโภคที่มีปัญหาด้านสายตาเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจุบันยังไม่สามารถผลิตบุคลากรสำคัญอย่างนักทัศนมาตรให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด เช่น ในประเทศไทยตอนนี้มีนักทัศนมาตรเพียง 800 คน ซึ่งถือเป็นอุปสรรคหนึ่งของการเติบโตในอุตสาหกรรมนี้ ดังนั้น จึงควรเร่งผลิตนักทัศนมาตรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น
ธุรกิจเร่งสร้างแบรนด์
ดร.ลักษณรินทร์ คานิเยาว์ ผู้จัดการฝ่ายวิชาการ บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน(ไทย) จำกัด กล่าวว่า การผลักดันให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมแว่นตาโลกเป็นเรื่องที่ทำได้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาครัฐในการออกกฎเกณฑ์สร้างมาตรฐานและควบคุมคุณภาพให้สามารถแข่งขันในระดับโลกได้ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการเองจำเป็นต้องหันมาให้ความสำคัญกับสร้างแบรนด์ เพื่อสร้างความมั่นใจและการยอมรับในเวทีระดับโลก
สำหรับ ASEAN Int’l Optics Fair งานแสดงสินค้าด้านแว่นตาและสายตาที่ครบวงจรที่สุดในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ยังมีการประชุม Asia-Pacific Eye Health Summit, การอัปเดตข้อมูลเชิงลึกด้านอุตสาหกรรม เรียนรู้แนวโน้มตลาด ผ่านงานสัมมนาและเวิร์คชอปจากสมาคมทัศนมาตรแห่งประเทศไทย โซนพิเศษในการโชว์นวัตกรรมจากประเทศจีน ฮ่องกง เกาหลี ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม รวมถึงเวทีเจรจาธุรกิจระดับนานาชาติ ซึ่งจะจัดระหว่างวันที่ 9-11 ตุลาคม 2568 ณ ฮอลล์ 5-6 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ผู้สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://asean.opticsfair.com/ และสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานฟรีได้ที่ http://donnor.cn/J6F2
Alternate-X สรุปให้
ตลาดแว่นตาอาเซียนเติบโตแตะ 4 แสนล้านบาทใน 10 ปีข้างหน้า ส่วนไทยโตเฉลี่ยปีละ 11.6% แตะ 1.24 แสนล้านในปี 2573 เป็นโอกาสของธุรกิจผ่านการจัดงาน ASEAN Int’l Optics Fair ครั้งแรกในไทย 9–11 ต.ค. 2568 ดึงผู้ประกอบการแว่นตาทั่วโลกขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแว่นตาไทยสู่อาเซียน พร้อมผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางอุตฯ แว่นตา รับความต้องการแว่นตาเพิ่มขึ้นจากดิจิทัลไลฟ์สไตล์และสังคมสูงวัย กระตุ้นดีมานด์ทั้งเชิงสุขภาพและแฟชั่น งานนี้ยังชี้ช่องว่างบุคลากรทัศนมาตรในไทย และแนะธุรกิจเร่งสร้างแบรนด์แข่งขันในเวทีโลก