‘ศุภจี สุธรรมพันธุ์’ จากซีอีโอหญิงหัวแถว สู่ (ว่าที่) รมว.พาณิชย์รัฐบาลอนุทิน

‘นิ่ง ลึก สุขุม’ พร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้มแทบตลอดระยะเวลากับคู่สนทนา คือ บุคลิกที่สะท้อนตัวตนเด่นชัด ของ ‘ศุภจี สุธรรมพันธุ์’ ผู้บริหารหญิงระดับซูเปอร์โปรเฟสชั่นนัล ที่นั่งเก้าอี้บริหารองค์กรใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ มากว่า 30 ปี

 

ในวันนี้ ‘ศุภจี’ เตรียมเริ่มต้นเส้นทางบริหารใหม่อีกครั้งหลังวัยเกษียณในฐานะว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (คนนอก) ภายใต้รัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ของประเทศไทย

 

1.ประวัติส่วนตัว

 

ศุภจี สุธรรมพันธุ์ มีชื่อเล่นว่า ‘แต๋ม’  (วิกิพีเดีย) ระบุข้อมูลเบื้องต้น เธอเกิดในปี พ.ศ. 2507 ปัจจุบันอายุ 61 ปี

 

2.ด้านการศึกษา

 

‘ศุภจี’ จบระดับมัธยมจากโรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา และเรียนต่อปริญญาตรี สาขาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากนั้นได้รับปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ (MBA) สาขาการเงินและการบัญชีต่างประเทศ จาก Northrop University รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

 

นอกจากนี้ ‘ศุภจี’ ยังผ่านการอบรมผู้บริหารจากหลายสถาบัน เช่น Director Certification Program, Advanced Audit Committee Program และหลักสูตรผู้บริหารสูงจากสถาบันต่างๆ

 

3. ด้านครอบครัว

 

จากข้อมูลสาธารณะเปิดเผยเพียงว่า ‘ศุภจี’ มีบุตรสองคน และเธอ ยังเป็นพี่สาวของ ‘ธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์’ กรรมการผู้จัดการไมโครซอฟท์ประเทศไทย คนปัจจุบัน ด้วย

 

4. ประวัติการทำงานตลอด 30 ปี

 

ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา ‘ศุภจี’ รับบทบาทในฐานะผู้นำหญิงระดับสูงสุดในหลายองค์กร

 

โดยเฉพาะในองค์กรยักษ์เทคโนโลยีระดับโลก ไอบีเอ็ม (IBM)  ที่ ‘เธอ’ ทำงานมานานกว่า 23 ปี ตั้งแต่ตำแหน่งระดับเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2532 และดำรงตำแหน่งสุดท้ายในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป (General Manager) ซึ่งถือเป็นผู้บริหารหญิงสูงสุดที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ขององค์กร และดำรงตำแหน่ง ASEAN Global Technology Services จนถึงปี 2554 และยังเคยทำงานถึงที่สำนักงานใหญ่ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ด้วย

 

จากนั้น ‘ศุภจี’ ได้เข้ารับตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหารในบริษัทไทยคม จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการธุรกิจดาวเทียมเชิงพาณิชย์รายแรกและรายเดียวของประเทศไทย ช่วงระหว่างปี 2554 – 2558

 

ถัดมาในปี 2559 ‘ศุภจี’ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) จนถึงปัจจุบัน สิ่งที่น่าสนใจ คือ เธอ ยังเป็น กรุ๊ป ซีอีโอของ ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ในฐานะ ซีอีโอ คนแรกที่ไม่ใช่คนในตระกูลผู้ก่อตั้ง

 

5.ผู้พลิกสถานการณ์

 

ตลอดระยะการทำงานร่วม 30 ปีที่ผ่านมาของ ‘ศุภจี’ ฉายแสงผลงานที่โดดเด่นและสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะใน ‘ไทยคม’ ก่อน ‘ศุภจี’ เข้ามา กิจการขาดทุนต่อเนื่องกว่า 2,000–4,000 ล้านบาท ต่อปี สาเหตุหลักจากต้นทุนโครงการไอพีสตาร์สูงเกินรายได้

 

แต่ภายใต้การบริหารของเธอ ได้มีการปรับกลยุทธ์ด้านต้นทุน การหาพันธมิตรต่างประเทศ และการขยายตลาด ทำให้บริษัท พลิกกลับมามีกำไรได้ในปี  2555 และต่อยอดให้เติบโตอย่างยั่งยืน

 

ส่วนผลงาน ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล เธอวางยุทธศาสตร์ในการเติบโตทั้งในธุรกิจโรงแรม การศึกษา ด้านพัฒนาอสังหา และบริการที่เกี่ยวเนื่อง โดยเพิ่มพอร์ตกิจการจาก 27 แห่งใน 9 ประเทศ เป็นกว่า 300 แห่งใน 18 ประเทศ

 

จากเส้นทางการทำงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ยังสะท้อนถึงการรับรางวัลและการยกย่องตามมา เช่น

 

  • Women of the Year” จาก Bangkok Post (2021)
  • Best CEO in Strategic Agility (2021)
  • Forbes Asia’s Power Businesswomen (2023)
  • Most Inspiring in Travel (Asia) (2024)

 

6.บทบาทล่าสุด

 

ปัจจุบัน ‘ศุภจี’ ดำรงตำแหน่ง Group Chief Executive Officer (CEO) และ กรรมการบริหารกลุ่ม (Executive Director) ของบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) โดยมีบทบาทสำคัญทั้งในด้านกลยุทธ์ ความเสี่ยง และความยั่งยืน

 

นอกจากนี้เธอยังดำรงตำแหน่งกรรมการในหลายบริษัทย่อยของกลุ่มดุสิต และยังเป็นคณะกรรมการหลายภาคส่วน อาทิ สถาบันการศึกษา ธนาคาร พัฒนาภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ

 

7.วิสัยทัศน์-ยืดหยุ่น-มุ่งผลลัพธ์

 

การทำงานในช่วง10 ปีสุดท้ายก่อนถึงวัยเกษียณ ‘ศุภจี’ เป็นหัวเรือใหญ่สำคัญต่อการบริหารจัดการองค์กรท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ของ ‘ดุสิตธานี’ ให้ยังคงทำกำไรสุทธิ แม้ในปีแรกๆ จะขาดทุนก่อนหน้านี้ เช่น ไตรมาส 1 ปี 2564 พลิกขาดทุนเป็นกำไร 74 ล้านบาท

 

นอกจากนี้ เธอ ยังเข้ามาปรับโครงสร้างองค์กร ลดต้นทุนอย่างเข้มงวด และกระจายการลงทุนไปในธุรกิจอาหาร การศึกษา และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อลดการพึ่งพารายได้จากโรงแรมเพียงอย่างเดียว

 

ขณะเดียว ทีมของเธอยังยอมลดเงินเดือนผู้บริหารระดับสูง 25–50% เพื่อรักษาความมั่นคงของพนักงานล่างและสร้างความเป็นธรรมในองค์กร ด้วย

 

รวมถึงอีกหนึ่งยุทธศาสตร์สำคัญ คือ เร่งลงทุนระบบดิจิทัล เช่น ระบบ ERP (SAP S/4HANA), Microsoft Azure, CRM เพื่อสร้างความยืดหยุ่นขององค์กรในระยะยาว ที่สะท้อนถึงการมองไกลในอนาคตของธุรกิจ

 

รวมถึงการที่ ดุสิตฯ ได้ใช้โมเดล ‘Hope for the best, but prepare for the worst’ เพื่อเตรียมพร้อมจุดแข็งขององค์กรรับมือสถานการณ์ไม่แน่นอน

 

จากเส้นทางการบริหารของ ‘ศุภจี สุธรรมพันธุ์’ ซูเปอร์ซีอีโอหญิงพร้อมผลงานตลอดช่วงที่ผ่านมา สะท้อน 3 คำว่า ‘วิสัยทัศน์ – ความยืดหยุ่น – มุ่งมั่นผลลัพธ์’ ได้เป็นอย่างดี ที่เป็นแรงส่งสำคัญให้ไปสู่เส้นทางใหม่ในวัยหลังเกษียณ กับบทบาท (ว่าที่) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลชุด ‘อนุทิน ชาญวีรกุล’  หลังได้พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ไปเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568  ที่ผ่านมานี้

 

 

Alternate-X สรุปให้

 

 

‘ศุภจี สุธรรมพันธุ์’ ซีอีโอหญิงระดับสูงด้วยประสบการณ์มานานกว่า 30 ปี กับผลงานนำองค์กรไทยคมและดุสิตธานี พลิกผลกำไรและขยายธุรกิจระดับสากล ด้านการศึกษาเธอ จบ MBA และผ่านหลักสูตรผู้บริหารชั้นสูงหลายแห่ง พร้อมรับรางวัล Women of the Year, Forbes Asia’s Power Businesswomen และอื่นๆ ปัจจุบัน ‘ศุภจี’ เป็นที่จับตาต่อการเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่จะเตรียมสร้างความเปลี่ยนแปลงใหม่ในการบริหารงานประเทศภายใต้รัฐบาลชุด อนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี

บทความล่าสุด

COLLABORATE IDEAS, CREATE SUCCESS


FOLLOW US

© 2024 Maxideastudio. All Rights Reserved.