ไปรษณีย์ไทย บอกพอร์ต ‘เครื่องรางของขลัง“ พัสดุยอดฮิตส่งจากไทยไปจีน ปี’67 ยอดพัสดุ 6 แสนชิ้น โต3% ร่วมฉลองครบ50ปี สัมพันธ์ไทย-จีน งานแสดงตราไปรษณียากรภาคพื้นเอเชีย 2568
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) กล่าวว่า ปี 2567 ที่ผ่านมา การขนส่งพัสดุจากไทยไปจีนเติบโตเฉลี่ยกว่า 3% มียอดส่งออก 60,000 ชิ้น/ปี คิดเป็นมูลค่าการขนส่งราว 50 ล้านบาท
สำหรับสิ่งของที่ได้รับความนิยมในการส่งผ่านไปรษณีย์จากไทยไปปลายทางประเทศจีน 5 อันดับแรก ได้แก่
- เอกสาร
- ของเล่น
- เสื้อผ้าคอตตอน
- อาหารเสริม
- เครื่องรางของขลัง
“สินค้าเครื่องรางของขลัง อย่าง พระห้อย พระพุทธรูป ตะกรุด และเหรียญพระ เป็นที่นิยมในกลุ่มคนจีน รวมถึงคนชาติอื่น ๆ ทั้งญี่ปุ่น ฮ่องกง ติดลิสต์สินค้าส่งออกยอดฮิตของไปรษณีย์ไทยนานกว่า 10 ปี”
ดร.ดนันท์ กล่าวพร้อมเสริมว่า
“สินค้าเหล่านี้ จะมีเซียนพระในส่วนภูมิภาค เช่น ในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ฯลฯ นำมาฝากขายในที่ทำการไปรษณีย์ไทยบริเวณใกล้เคียง ซึ่งไปรษณีย์ไทยก็ได้สินค้าในช่องทางไทยแลนด์โพสต์มาร์ต”
ขณะที่ สินค้านำเข้าหมวดเครื่องรางของขลัง ยังได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคไทยสายมูเตลูเช่นกัน อาทิ เครื่องรางนำโชคด้านการเงินและความรัก ทั้งจากฮ่องกง และจีน
ปรับแผนรับอีคอมเมิร์ซไทย-จีน
ดร.ดนันท์ กล่าวว่า “ในอดีตการจัดส่งพัสดุระหว่างไทยจีน จะเป็นจดหมาย เงิน และโทรเลข โดยคนไทยเชื้อสายจีนส่งกลับไปให้ครอบครัว พ่อแม่ แต่ปัจจุบันการส่งสินค้ามีสัดส่วนนำหน้าจดหมาย/เอกสารถูกแซง จากปัจจัยอีคอมเมิร์ซของทั้ง 2 ประเทศขยายตัว”
จากแนวโน้มดังกล่าว ปณท. เห็นโอกาสในการส่งสินค้าระหว่างไทย-จีน โดยพัฒนาการขนส่งทางบกจากต้นทางจีน เพื่อให้บริการสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจต่อธุรกิจ (B2B) และกลุ่มธุรกิจต่อผู้บริโภค (B2C) โดยใช้การขนส่งในช่องทางพาณิชย์ เพื่อช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการในการลดต้นทุนค่าขนส่ง สามารถขนส่งได้ในปริมาณมากขึ้นเมื่อเทียบกับการขนส่งทางอากาศ
นอกจากนี้ ยังเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าทั้งต้นทางและปลายทางได้มากขึ้น เช่น มีบริการดำเนินพิธีการภาษีศุลกากรทั้งที่ต้นทางและปลายทาง
ขณะเดียวกัน ปณท. ยังอยู่ระหว่างศึกษาการใช้ประโยชน์จากช่องทางการขนส่งทั้งทางรถและทางราง (Multimodul Transport) ไปปลายทางจีน และพร้อมเป็นจุดกระจายสินค้าเข้าไทย โดยใช้เครือข่ายในประเทศและส่งต่อไปทั่วโลก ทั้งทางอากาศและทางภาคพื้น
อย่างไรก็ตาม ปี 2568 สถานการณ์การส่งสินค้าจากไทยไปยังจีนและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ยังมีปัจจัยที่คาดการณ์ได้ยาก ด้วยเศรษฐกิจและกำลังซื้อทั่วโลกชะลอตัว รวมถึงประเด็นภาษีนำเข้าสหรัฐ ซึ่งอาจทำให้รูปแบบการส่งออกต้องปรับเปลี่ยนเร็วขึ้น
ขณะที่ ในปี 2568 ถือเป็นวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ไทย – จีน โดย ปณท.ได้ร่วมกับสมาคมนักสะสมตราไปรษณียากรแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ จัดงานแสดงตราไปรษณียากรภาคพื้นเอเชีย 2568 “จดหมายแห่งมิตรภาพ – From Bangkok to Beijing” ถ่ายทอดเรื่องราวความสัมพันธ์ไทย – จีน ผ่านนิทรรศการแสตมป์ จดหมาย และกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมร่วมสมัย จัดแสดงแสตมป์หายากจากทั่วทั้งเอเชีย ระหว่างวันที่ 8 – 12 สิงหาคม 2568 นี้ ณ ไปรษณีย์กลาง บางรัก
โดยปัจจุบันไปรษณีย์ไทยส่งออกสินค้ามากสุด ใน 5 ประเทศ คือ อเมริกา จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย
Alternate-X สรุปให้
ไปรษณีย์ไทย (ปณท.) เผยปี 2567 การส่งพัสดุไปจีนโต 3% โดย “เครื่องรางของขลัง” ยังคงเป็นสินค้าส่งออกยอดนิยมอันดับ 1 มากว่า 10 ปี ในกลุ่ม 5 อันดับแรกที่คนจีนฮิต ปณท. เห็นโอกาสจากตลาดอีคอมเมิร์ซไทย-จีนที่ขยายตัว จึงได้พัฒนาการขนส่งทางบกจากจีนเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการส่งสินค้าทั้ง B2B และ B2C พร้อมศึกษาการขนส่งแบบ Multimodal ทั้งยังร่วมฉลอง 50 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีนผ่านงานแสดงตราไปรษณียากร แม้เศรษฐกิจโลกผันผวน ปณท. มุ่งมั่นพัฒนาบริการรับมือการเปลี่ยนแปลง