‘พฤกษา’ ปรับจุดขายใหม่ ส่ง ‘อินโน พรีคาสท์’ เจาะกลุ่มนัน-เรสซิเดนซ์ มองอสังหาฯ ฟื้นอีกที2 ปีหน้า

‘อินโน พรีคาสท’ ในเครือพฤกษา จับสัญญาณตลาดอสังหาฯ ซึมยาว 2 ปี คาดฟื้นปี 2570 ส่ง ‘พรีคาสท์’ เจาะกลุ่มนัน-เรสซิเดนซ์รับดีมานด์อุตฯโรงงาน-ท้องถิ่น ต้องการชิ้นส่วนวัสดุส่วนประกอบสำเร็จรูป เร่งงานเสร็จเร็ว-บริหารแรงงานขาดแคลน

 

‘ทรงศักดิ์ ปิยะวรรณรัตน์’ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินโน พรีคาสท์ จำกัด ในเครือ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนขยายการรับงานในโครงการอสังหาริมทรัพย์กลุ่มไม่ใช่ที่อยู่อาศัย (Non-Residences) เพิ่มขึ้น

 

โดยวางแผน 2-3 ปีข้างหน้า จะปรับสัดส่วนการรับงานโครงการฯกลุ่มนี้อยู่ที่ 30% ของรายได้ จากเดิม 20% ส่วนกลุ่ม Residences จะเหลือสัดส่วน 70% จากเดิม 80%

 

ทั้งนี้ บริษัทฯ เริ่มรับลูกค้าธุรกิจพรีคาสท์ ในกลุ่มโรงงานและเฮ้าส์ หลังเห็นโอกาสในตลาดโดยเฉพาะในทำเลเขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก (EEC) พร้อมเข้าไปเจรจาขายผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนพรีคาสท์สำเร็จรูปให้ผู้รับเหมาทั้งในท้องถิ่น และผู้รับเหมาชาวจีนที่รับงานก่อสร้างโรงงานในจังหวัด ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา โดยราคาผลิตภัณฑ์พรีคาสท์ อยู่ที่ 5,000 บาท/ตารางเมตรพื้นที่ใช้สอย

 

“ค่าก่อสร้างแบบพรีคาสท์แทบไม่ต่างจากค่าก่อสร้างแบบปกติ ห่างกันไม่ถึง 5% แต่จุดเด่นคือ ใช้เวลาก่อสร้างเพียง 2 สัปดาห์ และไม่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันภาคก่อสร้างมีปัญหาการขาดแคลนแรงงานค่อนข้างมาก”

ทรงศักดิ์ กล่าว พร้อมเสริมว่า

 

สำหรับแนวทางดังกล่าว ยังเป็นการปรับตัวรับสถานการณ์ตลาดอสังหาฯ ที่อยู่อาศัย คาดชะลอตัวจากนี้ 2 ปี (พ.ศ. 2568 – 2569) จากกำลังซื้อผู้บริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัวดี และประเมินว่าตลาดจะเริ่มฟื้นขึ้นมาภายในปี 2570

 

“แนวโน้มดังกล่าว ทำให้ปัจจุบันผู้ประกอบการอสังหาฯ ชะลอการสต๊อกสินค้า จากเดิมจะพัฒนาบ้านรองรับความต้องการล่วงหน้า 5 ปี ก็เหลือสต๊อกล่วงหน้าเพียง 2 ปี เพราะซัพพลายในตลาดยังมีอยู่ จึงต้องเร่งระบายสินค้าเดิมก่อน”

ทรงศักดิ์ กล่าว

 

ขณะที่ บริษัทฯ มีแบคล็อก (Backlog) อยู่ในมือราว 4,000 ล้านบาท คาดทยอยรับรู้รายได้ใน 3-5 ปี ซึ่งเป็นสัญญาจ้างผลิตพรีคาสท์สำหรับบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ โดยเริ่มเห็นแนวโน้มจากลูกค้าขอเลื่อนการผลิตและส่งมอบสินค้าออกไป ซึ่งบริษัทฯ มีความเข้าใจในสถานการณ์นี้และไม่ได้เร่งรัดลูกค้าแต่อย่างใด

 

“ช่วงก่อนหน้านี้ ธุรกิจพรีคาสท์มีฐานลูกค้าหลักในกลุ่มที่อยู่อาศัยราว 80% แต่จากสัญญาณดังกล่าว บริษัทฯได้หันไปขยายการรับงานคอนกรีตสำเร็จรูป ป้อนในกลุ่มธุรกิจนัน-เรสซืเดนซ์ ที่มีสัดส่วน 20% อาทิ ผนังและคานสำหรับกลุ่มโรงงาน, รั้วคอนกรีต, บ่อบำบัดสำเร็จรูป, เขื่อน เป็นต้น”

ทรงศักดิ์ กล่าวพร้อมเสริมว่า

 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมขยายทำพรีคาสท์สำหรับสระว่ายน้ำภายในปี 2568 เพิ่มเติมจากการทำผนัง เสา และคานสำเร็จรูป ซึ่งเป็นจุดแข็งทำให้ ‘อินโนพรีคาสท์’ เหนือกว่าคู่แข่ง ที่อาจทำได้แค่ผนังสำเร็จรูปเท่านั้น

 

โดยบริษัทฯ มีศักยภาพการผลิตอยู่ที่ 5 ล้านตารางเมตรต่อปี คิดเป็นการสร้างบ้าน 1,500 หลังต่อเดือน ปัจจุบันมีการใช้งานจากอัตราการผลิต (capacity) อยู่ที่ 40%

 

ทรงศักดิ์ กล่าวว่า จากภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดที่อยู่อาศัยชะลอตัว บริษัทฯ คาดว่า ปี 2568 จะทำรายได้ไม่ถึง 2,000 ล้านบาท จากปี 2567 มีรายได้ 2,000 ล้านบาท และปี 2566 มีรายได้ราว 2,200 ล้านบาท

 

 

Alternate-X สรุปให้

อินโน พรีคาสท์ ปรับแผนรุกตลาด Non-Residences รับมืออสังหาฯ ที่อยู่อาศัยชะลอตัว 2 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าขยายสัดส่วนรายได้กลุ่มนัน-เรสซิเดนซ์ เป็น 30% ภายใน 2-3 ปี จากเดิม 20% เจาะตลาด EEC ขายพรีคาสท์ให้โรงงาน-ผู้รับเหมาจีน ชูจุดเด่นก่อสร้างเร็ว ใช้แรงงานน้อย คาดปี 2568 ประเมินรายได้ลดเหลือไม่ถึง 2,000 ล้านบาท จากการชะลอสั่งผลิตของลูกค้า เตรียมขยายสินค้าใหม่ เช่น พรีคาสท์สำหรับสระว่ายน้ำ เสริมความสามารถแข่งขันในอนาคต

บทความล่าสุด

COLLABORATE IDEAS, CREATE SUCCESS


FOLLOW US

© 2024 Maxideastudio. All Rights Reserved.