นายณ์ เอสเตท (NYE ESTATE) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบ คอนโด และอาคารสำนักงาน ที่ดำเนินการถึงปัจจุบันร่วม 12 ปี พร้อมแผนขยายการเติบโตธุรกิจมาต่อเนื่อง
ล่าสุด นายณ์ เอสเตท ได้ทำงานร่วมกับสองนักออกแบบชั้นนำ ‘ประภาพร บำรุงไทย’ กรรมการบริหารและสถาปนิก, และ ชัชนิล ซัง กรรมการบริหารและ Landscape Studio Director บริษัท สถาปนิกชุมชนและสิ่งแวดล้อม ‘อาศรมศิลป์ จำกัด’ ร่วมกันถอดรหัส ‘บ้าน’ ที่ตอบโจทย์ 5 ความต้องการหลักของผู้บริโภคในปี 2025 ผ่านโครงการ “ไอรา เรซสิเดนซ์ งามวงศ์วาน” (IRA Residences Ngamwongwan)
จากโจทย์หลักที่ นายณ์ เอสเตท วางไว้ คือ พัฒนาโครงการฯคุณภาพการอยู่อาศัยที่ดีต่อสุขภาพกายและใจ และเป็นพื้นที่สำหรับมัลติ เจเนอเรชั่น (Multi-generation) และการเป็นกรีนคอมมูนิตี้ ให้ตอบรับกับสภาพแวดล้อมการใช้ชีวิตของคนในสังคมในปัจจุบัน ที่เต็มไปด้วยมลภาวะ pm 2.5
โดย ‘นายณ์ เอสเตท’ (NYE ESTATE) ค้นหาความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคยุคใหม่ ผ่านการวิจัยแบบสนทนากลุ่ม (Focus Group) และการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) เพื่อแก้ไขปัญหาและนำมาซึ่งการพัฒนาแนวคิดใหม่ พร้อมบทสรุป 5 อินไซต์ที่น่าสนใจนี้ คือ
- บ้านที่ตอบโจทย์ความยั่งยืน (Sustainability)
- เวลบีอิ้ง ซัพพอร์ตสุขภาพกายและใจให้กับผู้อยู่อาศัย (Wellbeing)
- กรีน คอมมูนิตี้ แวดล้อมด้วยธรรมชาติ (Green Community)
- มีความเป็นส่วนตัวสูง (Privacy)
- มัลติ เจเนอเรชัน รองรับไลฟ์สไตล์ของคนทุกวัยในครอบครัว (Multi – Generation)
พร้อมกันนี้ ยังเปิดตัวผลงานมาสเตอร์พีซ ปี 2025 ‘ไอรา เรซสิเดนซ์ งามวงศ์วาน’ บ้านเดี่ยว สุขภาวะดี จำนวน 24 ยูนิต ด้วยแนวคิด Breaking New Ground คิดต่างอย่างสร้างสรรค์ จาก ‘นายณ์ เอสเตท’ (NYE ESTATE) ที่ยังตอบโจทย์ 5 อินไซต์ที่อยู่อาศัยมัดใจผู้บริโภคยุคใหม่ดังกล่าว
คอนเซปต์ คิดให้หมดแล้ว
ด้าน ประภาพร บำรุงไทย กรรมการบริหาร และสถาปนิก กล่าวว่า วิถีชีวิตของคนในปัจจุบันส่วนใหญ่ ต้องเผชิญกับความเครียดจากการทำงานและมลภาวะจากฝุ่นพิษ ขณะที่ “บ้าน” จึงกลายเป็นสถานที่เดียวที่สามารถให้ความผ่อนคลายและหลีกหนีจากความวุ่นวาย เพื่อสร้างบรรยากาศที่แท้จริงของการพักผ่อน
พร้อมกล่าวถึง คอนเซ็ปต์การออกแบบเริ่มตั้งแต่วางผังให้โครงการเป็นกรีน คอมมูนิตี้ (Green community) ออกแบบให้ระบบสัญจรทางเท้าต่อเนื่องเชื่อมกันทั้งโครงการและสามารถเป็นทางวิ่งได้ด้วย
พร้อมกับปลูกต้นไม้ใหญ่ตลอดแนวถนนหลัก ทำให้ในภาพรวมเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวที่มีความต่อเนื่องตลอดทั้งโครงการ รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางออกแบบเป็น Universal Design รองรับไลฟ์สไตล์และกิจกรรมของทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย
ส่วนการวางผังตัวบ้านดีไซน์ให้มีลักษณะเป็นคลัสเตอร์ โดยบ้านทุกหลังสามารถเชื่อมต่อกับสวนส่วนกลางโดยตรง ทำให้เกิดชุมชนที่ร่มรื่น จำนวนรถยนต์วิ่งผ่านบ้านแต่ละหลังน้อยลง ช่วยลดเสียงรบกวน และเพิ่มความเป็นส่วนตัว
พร้อม ยังวางตำแหน่งบ้านตามแนวทิศเหนือใต้ เพื่อหลบแดดทิศตะวันออกและทิศตะวันตก เปิดทางให้บ้านรับลมธรรมชาติจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศใต้ได้อย่างเต็มที่ ออกแบบพื้นที่ให้เหมาะกับการอยู่อาศัยของทุกช่วงวัย (Multi-generation) รวมถึงสัตว์เลี้ยง พร้อมสวนส่วนกลางที่เชื่อมต่อระหว่างบ้าน เพื่อส่งเสริมสุขภาวะที่ดี (Well-being)
ขณะที่แบบบ้าน ดีไซน์ในคอนเซ็ปต์ โอเรียลทัล โมเดิร์น สไตล์ (Oriental modern style) ดีไซน์เรียบง่ายแต่คลาสสิก (Timeless) พร้อมกลิ่นไอตะวันออกด้วยเส้นสาย โทนสีของวัสดุ และสวนส่วนกลางระหว่างบ้าน (Double front courtyard house)
นอกจากนี้ยังกำหนดให้พื้นที่นั่งเล่นของครอบครัวและเพื่อนสนิทที่บริเวณชั้น 2 ดีไซน์ให้แยกจากพื้นที่รับแขกที่ชั้น 1 เพื่อความเป็นส่วนตัว ขณะเดียวกันออกแบบหลังคาให้รองรับการติดตั้ง Solar Roof ในตำแหน่งที่มีแสงส่องเพียงพอ แต่ไม่ทำลายดีไซน์ภาพรวมของงานสถาปัตยกรรม
ทำทุกวันให้เหมือนการพักผ่อน
ชัชนิล ซัง กรรมการบริหาร และ Landscape Studio Director กล่าวว่า หัวใจของการออกแบบโครงการนี้ คือการทำให้ทุกวันเหมือนการพักผ่อนในรีสอร์ท และสร้างบ้านที่ช่วยเติมเต็มคุณภาพชีวิตทั้งกายและใจ แตกต่างจากบ้านจัดสรรทั่วไปที่มักออกแบบเป็นกล่องสี่เหลี่ยม พร้อมสวนส่วนกลางสำหรับให้ทุกบ้านใช้ทำกิจกรรมร่วมกัน
ดังนั้นการออกแบบภูมิทัศน์ (Landscape Concept) สวนส่วนกลาง ออกแบบให้มีพื้นที่ใช้งานทั้งแบบ Passive และ Active กระจายอยู่ทั้งสองสวน เพื่อมุ่งสร้างปฎิสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างลูกบ้าน
ขณะที่การจัดองค์ประกอบของ The terrace and koi pond เป็นพื้นที่นั่งริมน้ำที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย มีเสียงของน้ำ รวมถึงสีสันและการเคลื่อนไหวของปลาคราฟ โอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ให้ความรู้สึกเหมือนพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ
โซนของ Pet Friendly ให้ทุกคนสามารถพาสัตว์เลี้ยงมาทำกิจกรรมในสวนได้ โดยมีประตูรั้วและแนวไม้พุ่มแบ่งแยกจากส่วนอื่นชัดเจน มีที่นั่งพักคอย ที่ผูกสายจูง และถังขยะสำหรับเก็บมูลสัตว์
นอกจากนี้ยังมี Relaxation Area (Co-working space) พื้นที่นั่งพักผ่อนและนั่งทำงานใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ และ Education Playground พื้นที่เล่นและเรียนรู้ธรรมชาติ โดยเน้นสร้างความปลอดภัยที่ส่งเสริมทั้งจินตนาการและพัฒนาการของเด็กรอบด้าน
รวมไปถึง Reflexology path ภายในสวนออกแบบให้มีทางเดินนวดเท้าท่ามกลางธรรมชาติ รองรับผู้อาศัยทุกวัย (Multi-generation)
‘สำหรับ ไอรา เรซสิเดนซ์ งามวงศ์วาน’ ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ โครงการฯ ตั้งอยู่ในซอย งามวงศ์วาน 6 ห่างจากเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ประมาณ 1.5 กิโลเมตร
- ขนาดพื้นที่โครงการ ประมาณ 7 ไร่
- แบ่งสัดส่วนพื้นที่สีเขียว 79% ของโครงการ
- โครงการ มี 24 ยูนิต
- ขนาดพื้นที่ใช้สอย 410 และ 380 ตารางเมตร
- ราคาขายเริ่มต้น 29 ล้านบาท
Alternate-X สรุปให้
NYE Estate เจาะอินไซด์ผู้บริโภคลักซูรี สู่แนวคิดบ้านเดี่ยวเพื่อการอยู่อาศัยแบบ ‘รีสอร์ตทุกวัน’ โครงการ “ไอรา เรซสิเดนซ์ งามวงศ์วาน” ตอบ 5 อินไซด์สำคัญ Sustainability, Wellbeing, Green Community, Privacy, Multi-generation ออกแบบร่วมกับสถาปนิกและนักจัดสวนชื่อดัง สร้างพื้นที่ที่เชื่อมโยงธรรมชาติและความสงบ ทุกดีไซน์รองรับไลฟ์สไตล์ครอบครัวไทยยุคใหม่ พร้อมฟังก์ชันเพื่อสัตว์เลี้ยง เด็ก และผู้สูงอายุ เปิดตัว 24 ยูนิต บ้านหรูสุขภาวะดี เริ่มต้น 29 ล้านบาท ใจกลางงามวงศ์วาน