รัฐบาลไต้หวัน ส่งแผนกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านเส้นทางความรู้คู่การทำงาน จัดนิทรรศการการศึกษาไต้หวันและเส้นทางสู่อาชีพ ประจำปี 2568 ในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 30–31 ส.ค. เจาะตลาดความรู้เด็กไทยติดอันดับ 6 ไปเรียนต่อ
ปีเตอร์ หลัน ผู้แทนรัฐบาลไต้หวัน สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย กล่าวว่า หลังการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ความร่วมมือด้านเทคนิคและอาชีวศึกษา เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านอาชีวศึกษา (TVET) และมอบโอกาสการฝึกภาคปฏิบัติให้แก่นักเรียนไทยที่ไปศึกษาในไต้หวัน ซึ่งเป็นการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับความร่วมมือในอนาคตด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ไปเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2568 ที่ผ่านมา พร้อมผลักดันความร่วมมือทางการศึกษาระหว่างไต้หวันและไทย ตามแผน ‘ส่งเสริมให้นักศึกษาต่างชาติเข้ามาเรียนและพำนักในไต้หวัน” ของกระทรวงศึกษาธิการไต้หวัน
ล่าสุด รัฐบาลไต้หวันจัดพิธีเปิดศูนย์ความร่วมมือแลกเปลี่ยนบุคลากรนานาชาติไต้หวัน ประจำประเทศไทย (กรุงเทพมหานคร) อย่างเป็นทางการขึ้นเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์บริการทางการศึกษาในเมือง: อาคารเคเอกซ์ (Knowledge Exchange – KX) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กรุงเทพมหานคร ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นบทใหม่ของการแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างสองประเทศ
โดยศูนย์ดังกล่าวจะให้บริการเกี่ยวกับหลักสูตรเตรียมภาษาจีน แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนด้านวิชาการ และทรัพยากรความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อช่วยให้นักศึกษาไทยไปศึกษาและหางานทำในไต้หวัน พร้อมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยไทยและไต้หวันในการจัดตั้งหลักสูตรพิเศษเกี่ยวกับการผลิตบุคลากรด้านอุตสาหกรรมในระดับนานาชาติ (INTENSE Program)
“ไต้หวันมีคณาจารย์คุณภาพสูง สื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย และสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่มีความเป็นสากล การศึกษาระดับอุดมศึกษาของไต้หวันจึงได้รับความนิยมจากนักศึกษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาโดยตลอด และกลายเป็นศูนย์กลางสำคัญของการพัฒนาบุคลากรในภูมิภาค” ปีเตอร์ กล่าว
โดยในปีที่ผ่านมา มีนักศึกษาต่างชาติจำนวนกว่า 120,000 คน ไปศึกษาต่อที่ไต้หวัน โดยในจำนวนนี้มีนักศึกษาจากไทยเกือบ 5,000 คน ทำให้ประเทศไทยเป็นแหล่งนักศึกษาต่างชาติอันดับที่ 6 ของโลกที่มาเรียนในไต้หวัน
ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านการศึกษาไต้หวันและไทย ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างภาคการศึกษากับภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนยกระดับการรับรู้เกี่ยวกับการศึกษาระดับอุดมศึกษาของไต้หวันในประเทศไทย จึงได้จัดงาน ‘งานนิทรรศการการศึกษาไต้หวันและเส้นทางสู่อาชีพ’ ประจำปีนี้ ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 30–31 สิงหาคม 2568 โดยมีมหาวิทยาลัยจากไต้หวันเข้าร่วมทั้งสิ้น 39 แห่ง และมีบริษัทไต้หวัน 12 แห่ง มาตั้งบูธรับสมัครคนไทยเข้าทำงาน
สำหรับในปีนี้ ผู้จัดงานได้รวบรวมมหาวิทยาลัยชื่อดังจากไต้หวันจำนวน 39 แห่ง มาให้บริการแนะนำหลักสูตร วิธีการสมัคร ข้อมูลทุนการศึกษา และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการศึกษาต่อยังต่างประเทศ อีกทั้งคณะกรรมการส่งเสริมการสอบวัดทักษะภาษาจีนแห่งชาติซึ่งเป็นหน่วยงานที่พัฒนาการทดสอบวัดระดับความรู้ทางภาษาจีนก็มาร่วมงานด้วยเช่นกัน เพื่อให้ข้อมูลที่สมบูรณ์แก่ผู้ที่สนใจไปศึกษาต่อในไต้หวัน
นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมชมงานยังมีโอกาสเข้าร่วมจับรางวัล โดยรางวัลใหญ่ที่สุดคือหลักสูตรภาษาจีนแบบเข้มข้น เป็นระยะเวลา 3 เดือน ผู้ได้รับรางวัลจะได้เรียนที่ศูนย์ภาษาจีนในสถาบันการศึกษาที่ไต้หวันฟรี!
นอกจากนิทรรศการการศึกษาแล้ว ยังมีกิจกรรมการแนะแนวอาชีพ โดยเชิญบริษัทไต้หวัน 12 แห่งมาตั้งบูธให้คำปรึกษาด้านฝึกงานและประกอบอาชีพ ช่วยให้นักศึกษาวางแผนประกอบอาชีพหลังจากสำเร็จการศึกษาอย่างมั่นใจ พร้อมเชิญชวนครู นักเรียน นักศึกษาและผู้ปกครองชาวไทยมาเข้าชมงานนิทรรศการ ในครั้งนี้
Alternate-X สรุปให้
รัฐบาลไต้หวัน เดินกลยุทธ์ดึงดูดนักศึกษาไทย เปิดศูนย์แลกเปลี่ยนบุคลากรนานาชาติและจัดงานนิทรรศการการศึกษาไต้หวัน 2025 จากที่ผ่านมา มีนักศึกษาไทยเกือบ 5,000 คน ไปเรียนต่อปี ทำให้ไทยติดอันดับ 6 ของประเทศที่มีนักศึกษาไปศึกษาต่อมากที่สุด แผนนี้ไม่เพียงเน้นการศึกษา แต่ยังรวมถึงโอกาสฝึกงาน การทำงาน และความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม 39 มหาวิทยาลัยและ 12 บริษัทจากไต้หวันเข้าร่วมงานในกรุงเทพฯ เพื่อเจาะตลาดการศึกษาและแรงงานไทย นับเป็นยุทธศาสตร์เศรษฐกิจและ Soft Power ของไต้หวัน ที่มุ่งใช้การศึกษาเชื่อมเศรษฐกิจ–วัฒนธรรมกับไทย