แอมเพ็คฯ จับอินไซต์คนไทย หาข้อมูลด้วยตัวเองมากขึ้นก่อนตัดสินใจทำหัตการใบหน้า ปรับกลยุทธ์พุ่งเป้า B2C เจาะตรงผู้บริโภค รับตลาดความงาม 7.6 หมื่นล้านบาทโตไม่แผ่ว
สุมิตร เตชะสุขสันติ์ ประธานบริหาร บริษัท แอมเพ็ค เอซเธติค จำกัด บริษัทนำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ด้านความงามชั้นนำของไทยมาตรฐานระดับสากล เปิดเผยว่า กระแสความนิยม(เทรนด์)ความงามในยุคปัจจุบัน ผู้บริโภคนิยมใช้เครื่องยกกระชับมากกว่าการใช้สารเติมเต็ม จากแนวโน้มดังกล่าว มาจากปัจจัยหลัก
- การความเป็นธรรมชาติ เพื่อให้ดูดีในแบบเป็นตัวเองมากที่สุด
- กระแส ‘Longevity’ ที่กำลังมาแรง และไม่ได้จำกัดเฉพาะการดูแลแค่สุขภาพกายเท่านั้น แต่เทรนด์ดังกล่าวยังส่งเสริมให้คนหันมาดูแลตัวเองแบบองค์รวม ด้วยการมีสุขภาพดีไปพร้อมกับการดูดีภายนอกด้วยใบหน้าที่อ่อนเยาว์และร่างกายที่เฟิร์มกระชับ
“เทรนด์ดังกล่าว ทำให้ตลาดความงาม ได้รับอานิสงส์เติบโตไปพร้อมกัน”
ทั้งนี้ บริษัทฯ มองเห็นโอกาสการเติบโตธุรกิจจากกระแสดังกล่าว โดยนำเข้าโปรแกรม ‘XTHERMA’ ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการปัจจุบันของผู้บริโภคที่มองหานวัตกรรมที่มีส่วนช่วยให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์
ขณะที่ โปรแกรม ‘XTHERMA’ จาก ‘Tentech’ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ด้านความงามระดับโลก ถือเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการทำหัตถการยกกระชับ ด้วยราคาที่คุ้มค่ากว่าราว 20-30% โดยได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา หรือ FDA จากสหรัฐอเมริกา เกาหลี และไทย ด้วยประสิทธิภาพใกล้เคียงกับเครื่องระดับ Gold Standard ในตลาดประเทศไทยปัจจุบันที่อาจมีราคาสูงหรือบางเครื่องก็มีประสิทธิภาพไม่ตอบโจทย์ต่อความต้องการ
สำหรับบริการโปรแกรมฯ ดังกล่าว เจาะกลุ่มเป้าหมายหลัก
- กลุ่มคนวัยทำงาน
- กลุ่ม Successful Business Person ที่มีกำลังซื้อ
รวมถึงในกลุ่มมองหานวัตกรรมที่สร้างความแตกต่างและคุ้มค่า มีความกังวลเรื่องผิวหน้าและผิวตัวที่หย่อนคล้อย อยากดูดีขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น
สุมิตร กล่าวถึงแผนการทำตลาดผ่านการใช้อินฟลูเอนเซอร์ หรือ KOLs พร้อมกับกิจกรรมร่วมกับคลินิกพาร์ทเนอร์ โดยวางจุดยืนเป็น ‘Smart Choice’ ปลอดภัย คุ้มค่า แต่มีนวัตกรรมใกล้เคียงกับเครื่องระดับ Gold Standard
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งแผนการทำตลาดผ่านการสร้าง Brand Image ของแอมแพ็ค เพื่อทำตลาดเชิงรุกในรูปแบบธุรกิจต่อผู้บริโภค (B2C) เพิ่มขึ้น ด้วยมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคที่สามารถเข้าถึงนวัตกรรมความงามได้ง่ายขึ้น มีข้อมูลรวมถึงมีความเข้าใจเกี่ยวกับสินค้าหัตถการอย่างถูกต้องนอกเหนือจากการอ่านรีวิว จากเดิมบริษัทฯ เน้นเจาะกลุ่มธุรกิจต่อธุรกิจ (B2B) เป็นหลัก มานานร่วม 22 ปี
จากแนวทางดังกล่าว ‘แอมเพ็ค’ ตั้งเป้าการเติบโตในปี 2568 ในกลุ่มธุรกิจบริการเครื่องยกกระชับผิวโปรแกรม XTHERMA อยู่ที่70 ล้านบาทและในปี 2569 วางเป้าหมายการเติบโตที่ 250 ล้านบาท พร้อมวางเป้าหมายรายได้ของบริษัทในภาพรวมมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 40% ต่อเนื่องทุกปี โดยสองปีที่ผ่านมาจนถึงสิ้นปีนี้ที่ บริษัทจะมียอดขายรวมตลอด มากกว่า 1,000 ล้านบาท
คนรุ่นใหม่หาข้อมูลเองก่อน
สุมิตร กล่าวต่อว่า กระแส (Trend) ความงามมีการปรับเปลี่ยน(Update) ตลอดเวลาทำให้บริษัทฯ อัปเดตตามเทรนด์อยู่เสมอเพื่อหาสินค้ามาตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค ด้วยคู่แข่งในตลาดมีจำนวนมากขึ้น ขณะที่ผู้บริโภคเองก็หาความรู้มากขึ้น
“การให้ข้อมูลจากฝั่งแบรนด์ถือเป็นหัวใจสำคัญ หากแบรนด์ที่สื่อสารกับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องจะมีชัยไปกว่าครึ่ง ทำให้ปัจจุบันหลายๆ แบรนด์ที่เป็นผู้นำเข้าต่างก็เริ่มลงมาให้ข้อมูลเอง เพื่อสื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงผลิตภัณฑ์ได้ดีกว่าเดิม”
นอกจากนี้ จากเทรนด์ตลาดความงามที่เติบโตในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงความต้องการดูแลสุขภาพแบบยืนยาว ‘Longevity’ ที่ผลักดันให้ผู้คนต้องการมีสุขภาพดีแบบองค์รวม ทั้งสุขภาพกายพร้อมมีใบหน้าอ่อนเยาว์ คุ้มค่า ยั่งยืน
โดยปัจจุบันธุรกิจความงามไม่ได้มุ่งเน้นเพียงศัลยกรรมตกแต่งเท่านั้น แต่ยังมีผู้บริโภคที่มองหาการดูแลตัวเองที่สอดคล้องกับความต้องการในช่วงเวลานั้นๆ อาทิ เลเซอร์ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิว โปรแกรม Wellness & Anti-aging เพื่อชะลอวัย รวมถึงการยกกระชับและลดริ้วรอยให้ดูอ่อนเยาว์ ซึ่งเป็นการดูแลตัวเองที่เน้นความยั่งยืน มากกว่าการเปลี่ยนแปลงที่ต้องการความรวดเร็ว
ขณะที่ ธุรกิจความงามไทยเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปีทั้งในแง่จำนวนผู้เล่นหน้าใหม่รวมถึงความต้องการของผู้บริโภค ทำให้เทรนด์ความสวยความงามต้องปรับเปลี่ยนไปตามความสนใจในแต่ละปี โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้ว่า เทรนด์ความงามที่ผู้บริโภคให้ความสนใจมากที่สุด ดังนี้
- บริเวณใบหน้า คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 47%
- ลำตัวและแขนขา คิดเป็นสัดส่วน 16% ของจำนวนการใช้บริการทั้งหมด
รวมถึง ความต้องการเสริมความงามที่เกี่ยวข้องกับการชะลอวัย โดยคาดว่ามูลค่าตลาดธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงามของไทยปี 2568 จะอยู่ที่ประมาณ 76,500 ล้านบาท โตกว่า 2.8% จากปีก่อน
Alternate-X สรุปให้
ตลาดความงามไทยปี 2568 มีมูลค่ากว่า 7.6 หมื่นล้านบาท เติบโตต่อเนื่องจากเทรนด์ดูดีแบบธรรมชาติ รับคนรุ่นใหม่หาข้อมูลเองก่อนตัดสินใจทำหัตถการ แทนการดูรีวิวเพียงอย่างเดียว เป็นโอกาส ‘แอมเพ็ค’ เปิดตัว XTHERMA เครื่องยกกระชับจาก Tentech มาตรฐาน FDA สหรัฐฯ เกาหลี และไทย พร้อมวางกลยุทธ์ “Smart Choice” เน้นปลอดภัย คุ้มค่า ใกล้เคียงเครื่องระดับ Gold Standard แต่ราคาย่อมเยา ตั้งเป้ารายได้ธุรกิจยกกระชับ 250 ล้านบาทในปี 2569 เติบโตเฉลี่ย 40% ต่อปี