UHG มองทำเลใหม่ ‘ไข่ขาว’ ขยายโรงแรมเดอะควอเตอร์-ออฟฟิศให้เช่า

ซีอีโอ ‘UHG’ วางแผนขยายธุรกิจกับดีลใหญ่ในมือทำเล ‘ไข่ขาว’ ที่กำลังจะกลายเป็นขุมทรัพย์ใหม่อสังหาฯ ในอนาคต

 

วุฒิพล ถาวรธวัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เออร์เบิน ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป จำกัด หรือ UHG เจ้าของและผู้พัฒนาโรงแรมแบรนด์ ‘เดอะ ควอเตอร์’ และอาคารสำนักงานแบรนด์ ‘ฮิลล์’ เปิดเผยว่า UHG ได้วางแนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากปี 2568 นี้เป็นต้นไป โดยจะให้ความสำคัญในทำเล ‘ไข่ขาว’ หรือทำเลรอบใจกลางเมืองหรือทำเล ‘ไข่แดง’ เพื่อขยายธุรกิจโรงแรม และอาคารสำนักงาน บนที่ดินเช่า ซึ่งเป็นกลยุทธ์การบริหารตามแนวถนัดของบริษัทฯ ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา

 

สำหรับทำเลไข่ขาวดังกล่าวที่บริษัทฯ จะเลือกพัฒนาโครงการฯ จะประกอบด้วยจุดเด่น ดังนี้

 

  1. ความสะดวกในการเดินทางคมนาคม โดยอยู่ใกล้หรือติดแนวรถไฟฟ้าสายเดิมและสายใหม่ที่จะแล้วเสร็จในอนาคต พร้อมเชื่อมต่อชุมชนรอบนอกกรุงเทพฯ
  2. บริเวณย่านใกล้เคียง (Neighborhood)
  3. สิ่งดึงดูด (Attraction) โดยรอบ เช่น สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารริมทาง (Street food) ร้านสะดวกซื้อ ฯลฯ
  4. ตลาดนัด สะท้อนการจับจ่ายของชุมชนในทำเลนั้นๆ
  5. ศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า บริการซูเปอร์มาร์เก็ต และ ศูนย์อาหาร (Food Court)

 

“บริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจากับเจ้าของที่ดิน 2 รายในทำเลที่น่าสนใจ คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนใน 2-3 เดือนนี้ จากนั้นพร้อมเริ่มพัฒนาโครงการได้ในทันที” วุฒิพล กล่าวพร้อมเสริมว่า

 

“แนวรถไฟฟ้าสายสีส้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคตตลอดทั้งเส้นเป็นอีกหนึ่งทำเลไข่ขาวที่น่าสนใจ เช่นเดียวกับแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ถือเป็นแนวทางในการพัฒนาโครงการอสังหาฯ ของ UHG ในอนาคตที่อยู่นอกซีบีดี ซึ่งเป็นทำเลไข่แดงของโครงการอสังหาฯ และมีซัพพลายโรงแรมจำนวนมากแล้วในปัจจุบัน”

 

ขณะเดียวกัน มาตรการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ได้ใช้ราคาประเมินใหม่ เป็นปัจจัยเร่งให้เจ้าของที่ดิน อาคารสำนักงาน อพาร์ทเมนท์หรือโรงแรมที่เปิดมานานและไม่ได้มีการปรับปรุงตัดสินใจปล่อยเช่าที่ดินในทำเลรอบนอกเพื่อบริหารสภาพคล่องไว้ด้วยเช่นกัน

 

วุฒิพล กล่าวว่า บริษัทฯ วางงบลงทุนราว 1,500 ล้านบาทในปี 2569 เพื่อพัฒนาโครงการฯ ตามทำเลใหม่ที่วางไว้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงแรมภายใต้แบรนด์เดอะควอเตอร์และแบรนด์อื่น ๆ และพื้นที่สำนักงานให้เช่าภายใต้โครงการมิกซ์ยูสภายใต้แบรนด์ฮิลล์ รวมทั้งสิ้น 18 แห่ง เป็นห้องพักจำนวนกว่า 3,000 ห้อง และพื้นที่สำนักงานให้เช่ารวม 50,000 ตารางเมตร

 

ล่าสุดเมื่อต้นปีนี้ ได้เปิดโรงแรมแห่งใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ เดอะ ควอเตอร์ สะพานควาย จำนวน 200 ห้อง ซึ่งใช้งบลงทุนกว่า 200 ล้านบาท ปรับปรุงโฉมใหม่ของโรงแรมกานต์มณีพาเลซ – KAYAK บริเวณซอยประดิพัทธ์ 15 ซึ่งได้เช่ามาจากเจ้าของเดิมระยะเวลา 30 ปี อีกแห่ง ซึ่งเปิดเมื่อช่วงสงกรานต์ คือ โรงแรมเดอะ ควอเตอร์ รามคำแหง จำนวน 338 ห้อง ซึ่งใช้งบลงทุนราว 1,800 ล้านบาท

 

ขณะเดียวกันในปี 2568 นี้ บริษัทยังได้ปรับกลยุทธ์การทำการตลาดด้านการให้บริการธุรกิจโรงแรมเดอะควอเตอร์ ครั้งใหญ่เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมาย นักเดินทางต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มชาวยุโรป ที่จองเข้าพักเพื่อท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น ซึ่งเห็นสัญญาณชัดมาต่อเนื่องจากปลายปีจนถึงในช่วงต้นปีนี้ที่ผ่านมา ซึ่งทดแทนกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่หายไปจำนวนหนึ่ง จากหลายปัจจัยลบที่กระทบต่อความเชื่อมั่นการท่องเที่ยวในไทย

 

โดย UHG ได้ปรับรูปแบบการให้บริการรอบด้าน ทั้งการปรับปรุงโรงแรมเดอะ ควอเตอร์ 9-10 แห่ง อาทิ ศาลาแดง, อารีย์, ร่วมฤดี, นานา, ทองหล่อ เป็นต้น ให้มีห้องพักสำหรับครอบครัว (Family Room) โดยรวมห้องขนาดแสตนดาร์ดหรือสตูดิโอและห้องแบบ 1 ห้องนอน บริเวณมุมในแต่ละชั้นของโรงแรม และเพิ่มประตูใหญ่ เพื่อขยายโซนดังกล่าวให้กลายเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนสำหรับครอบครัว

 

นอกจากนี้ ยังได้เพิ่ม ซอฟต์ เซอร์วิส ต่างๆ อาทิ บริการอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) ทั้งเมนูและสัดส่วนอาหาร การเพิ่มกิจกรรมต่าง ๆ ฯลฯ เพื่อรองรับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวยุโรป และความต้องการของกลุ่มครอบครัวที่นิยมพักผ่อนในห้องระยะยาว 4-7 คืนต่อทริป ขณะที่นักเดินทางเอเชียรวมทั้งคนไทยพักเฉลี่ยอยู่ที่ 1-2 คืนต่อทริป และเน้นออกไปทำกิจกรรมต่างๆ ในสถานที่ท่องเที่ยวหรือช้อปปิ้ง มากกว่า

 

ปัจจุบันโรงแรมเดอะควอเตอร์ มีราคาห้องพักเฉลี่ย 1,800-3,000 บาทต่อคืน และมีอัตราการเข้าพัก (Occupancy) เฉลี่ยทั้งหมด 80% แบ่งสัดส่วนลูกค้าเป็นกลุ่มคนไทย 40% และชาวยุโรป 30% ส่วนที่เหลือ 30% เป็นกลุ่มประเทศสหรัฐอเมริกา, เอเชีย อาทิ จีน, ไต้หวัน และ เกาหลี รวมถึงประเทศต่างๆ ในอาเซียน

 

“ตอนนี้ เวียดนามกำลังแย่งตลาดนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งหากไทยไม่มีข่าวเชิงลบมาซ้ำเติมกับข่าวในช่วงต้นปีที่ผ่านมา คาดว่า นักท่องเที่ยวจีนจะมีแนวโน้มกลับมาไทยในกลางปีนี้ หรือในช่วงวันฉลองวันชาติจีนในเดือนตุลาคม” วุฒิพล กล่าว

 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนขยายโซนใหม่โรงแรมเดอะควอเตอร์ ลาดพร้าว ซึ่งจะใช้อาคารเดิมที่เป็นพื้นที่สำนักงานให้เช่ารวม 7,000 ตร.ม. ปรับปรุงเป็นห้องพักจำนวน 200 ห้อง หลังจากสถาบันส่งเสริมวิสาหกิจดิจิทัล (DEPA) ซึ่งเป็นผู้เช่าพื้นที่ทั้งหมดเตรียมย้ายสำนักงานไปยังที่ทำการใหม่ในเร็วๆนี้ โดยเมื่อแล้วเสร็จจะทำให้มีรายได้จากห้องพักโรงแรมประมาณปีละ 160 ล้านบาท เมื่อคำนวณจากค่าห้องพักคืนละ 2,500 บาทและอัตราเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีของโรงแรมเดอะควอเตอร์ ลาดพร้าวที่ 90%

 

“นับว่าคุ้มกว่าการปล่อยเช่าพื้นที่สำนักงานที่สร้างรายได้ปีละประมาณ 50 ล้านบาท ในอัตราค่าเช่า 600 บาทต่อตร.ม.ต่อเดือน ท่ามกลางตลาดอาคารสำนักงานที่อยู่ในภาวะโอเวอร์ซัพพลาย โดยคาดว่า จะใช้เงินลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท และพร้อมเปิดให้บริการในปี 2569”

 

ปัจจุบัน UHG มีพื้นที่สำนักงานให้เช่ารวม 6 แห่ง พื้นที่รวม 50,000 ตร.ม. พร้อมเปิดตัว 3 โครงการใหม่ คือ ฮิลล์ รัชโยธิน ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเช่า 40%, ฮิลล์ รามคำแหง ซึ่งมีอัตราการเช่า 10% และ ฮิลล์ สุขุมวิท 60%

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่า รายได้ในปีนี้จะเติบโต 2-5% จากปี 2567 ซึ่งมีรายได้ 3,000 ล้านบาท และกำไร 668 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 20%

 

Alternate-X สรุปให้ 

UHG (Urban Hospitality Group) เดินหน้าขยายธุรกิจโรงแรมและพื้นที่สำนักงานเช่าเตรียมเปิดทำเลใหม่ย่าน “ไข่ขาว” บริเวณศูนย์กลางกรุงเทพฯ ที่มีศักยภาพเติบโตสูงมุ่งพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ The Quarter รองรับนักเดินทางรุ่นใหม่และกลุ่มธุรกิจชูแนวคิด Hybrid Hospitality ผสานที่พักและพื้นที่ทำงานเพื่อไลฟ์สไตล์ยุคใหม่พร้อมใช้กลยุทธ์เลือกทำเลศักยภาพ เชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมและย่านเศรษฐกิจ

บทความล่าสุด

COLLABORATE IDEAS, CREATE SUCCESS


FOLLOW US

© 2024 Maxideastudio. All Rights Reserved.