เซ็นทรัลพัฒนา เตรียมเปิด ‘The Central’ พหลโยธิน มูลค่าโครงการ 2.1 หมื่นล้านบาท เฟสแรกในไตรมาส 4 ปี 2569 กับตำแหน่งศูนย์การค้าแฟล็กชิพแห่งอนาคต ใช้พลังแห่งการซินเนอร์ยี ‘เซ็นทรัลลาดพร้าว’ หนึ่งในห้างระดับตำนานของไทยที่มีอายุกว่า 4 ทศวรรษ บนทำเลห้าแยกลาดพร้าว ดึงกำลังซื้อกรุงเทพฯโซนเหนือ 10 กิโลเมตรโดยรอบ
ชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสถุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าและกลุ่มงานพัฒนาโครงการ บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น (CPN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร (มิกซ์-ยูส) ค้าปลีก, โรงแรม, อาคารสำนักงานในกลุ่มเซ็นทรัล กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการ เดอะเซ็นทรัล ‘The Central’ พหลโยธิน มูลค่ากว่า 21,000 ล้านบาท ที่อยู่ระหว่างเร่งก่อสร้าง พร้อมวางแผนเปิดในไตรมาส 4 ปี 2569
สำหรับโครงการฯ วางตำแหน่งเป็นศูนย์การค้าระดับแฟล็กชิพ (The Flagship of the Future) เพื่อเป็นแลนด์มาร์กใหม่พร้อมยกระดับกรุงเทพฯสู่มหานครระดับโลก สะท้อนศักยภาพทำเลย่านพหลโยธิน มีแนวโน้มเติบโตใกล้เคียงย่านใจกลางธุรกิจ (CBD) ด้วยยังเป็นย่านที่อยู่อาศัยและเศรษฐกิจสำคัญที่มีคุณภาพสูงของกรุงเทพฯทางตอนเหนือ
โดย ‘The Central’ พหลโยธิน ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 49 ไร่ พื้นที่ (GBA) 457,409 ตร.ม. พร้อมด้วยคอนเวนชั่น ฮอลล์ ขนาดใหญ่กว่า 6,700 ตร.ม. พร้อมรองรับการแสดงคอนเสิร์ตระดับโลก
ขณะที่โครงการฯ ตั้งบนทำเลศักยภาพที่ตั้งโครงการบนถนนสองสายหลัก วิภาวดี รังสิต และ พหลโยธิน ที่ปัจจุบันมีปริมาณรถยนต์สัญจร ราว 337,000 คันต่อวัน พร้อมบริการคมนาคมสาธารณะทั้ง MRT สายสีน้ำเงินมีผู้โดยสาร 15,600 คนต่อวัน และ BTS สายสีเขียวมีผู้โดยสาร 35,100 คนต่อวัน
ด้าน อิศเรศ จิราธิวัฒน์ เฮด ออฟ ลีสซิ่ง-แฟชั่น แอนด์ ลักซูรี่ (Head of Leasing-Fashion & Luxury) ซีพีเอ็น กล่าวว่า ‘The Central’ พหลโยธิน ยังจะเป็นโครงการเชิงกลยุทธ์ผสานความแข็งแกร่ง (Synergy) ร่วมกับศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว บนทำเลห้าแยกลาดพร้าว โดยเมื่อเปิดให้บริการแล้วเสร็จทั้ง สองโครงการจะมีพื้นที่ค้าปลีก (Retail)รวมกันไม่ต่ำกว่า 8 แสน ตร.ม. (เซ็นทรัล ลาดพร้าว ราว 3 แสนตร.ม.) พร้อมขยายพื้นที่ค้าปลีกได้ถึง 1 ล้านตร.ม. ในอนาคต โดยทั้งสองศูนย์ฯรวมกันจะมีพื้นที่รีเทลใหญ่กว่าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
จากศักยภาพของพื้นที่ค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นของ ‘The Central’ พหลโยธิน จะยังเปิดโอกาสให้บริษัทฯ ทำงานร่วมกับพันธมิตรแบรนด์ร้านค้าต่างๆ ทั้งในประเทศและแบรนด์ระดับโลกได้มากขึ้น ตามความต้องการของโกลบอลแบรนด์สินค้าหลายรายให้ความสนใจขยายพื้นที่ร้านในรูปแบบแฟล็กชิพ สโตร์ เพิ่มขึ้น
“โครงการฯ เพื่อรองรับความต้องการแบรนด์ต่าง ๆ ในรูปแบบแฟล็กชิพสโตร์ เพื่อดิสเพลย์ให้กับสินค้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาในรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยแบรนด์ใหม่และจำนวนที่จะเข้ามา”
ทั้งนี้ จากการใช้ข้อมูลเพื่อใช้ทำการตลาด (Data Driven) ของสมาชิกผู้ถือบัตรเครดิตเดอะวันในกลุ่มเซ็นทรัล ผ่านศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว ตลอดช่วงที่ผ่านมา ยังพบว่าเป็นทำเลการค้าและอยู่อาศัยที่มีกำลังซื้อแข็งแกร่ง โดยเติบโตเฉลี่ย 2.1% ต่อปี สูงกว่าค่าเฉลี่ยกรุงเทพฯอยู่ที่ 1.8% ต่อปี
รวบแรงซื้อรัศมี 10 กิโลเมตร
ขณะที่ ‘The Cemtral’ พหลโยธิน วางเป้าหมายครอบคลุมกำลังซื้อในระยะรัศมี 10กิโลเมตรโดยรอบโครงการฯ จากปัจจุบันในย่านนี้มีพื้นที่ครอบคลุมกำลังซื้อ (Catchment Area) ประชากรราว 2.5 ล้านคน และยังเป็นกลุ่มกำลังซื้อสูง (Wealth Segment) กว่าค่าเฉลี่ยกรุงเทพฯ 2.3 เท่า และมียอดขายต่อพื้นที่ (Sales per GLA) สูงกว่าค่าเฉลี่ยศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ 45%
นอกจากนี้ในช่วง 3 ปีข้างหน้าคาดว่าจะมีที่อยู่อาศัยใหม่ที่จะแล้วเสร็จประมาณ 90 โครงการ หรือ 20,214 ยูนิต จากปัจจุบันมีโครงการแวดล้อม ‘The Central’ พหลโยธิน กว่า 472 โครงการ รวมถึงยังมีแนวโน้มการขยายตัวของอาคารสำนักงานสูงขึ้น ที่ปัจจุบันมี 52 แห่งโดยรอบโครงการฯ รวมทั้งยังแวดล้อมด้วย โรงเรียนชั้นนำ 15 แห่ง แบ่งเป็นโรงเรียนนานาชาติ 6 แห่ง, มหาวิทยาลัย 9 แห่ง และโรงแรม 41 แห่ง
Alternate-X สรุปให้
เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ลงทุนกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท พัฒนาโครงการ The Central พหลโยธิน วางตำแหน่งเป็น แฟล็กชิพมิกซ์ยูสแห่งอนาคต เสริมศักยภาพย่านเศรษฐกิจตอนเหนือของกรุงเทพฯ ผสานพลังกับ เซ็นทรัล ลาดพร้าว สร้างพื้นที่รีเทลรวมกว่า 8 แสน ตร.ม. ใช้กลยุทธ์ Data Driven Marketing เจาะกลุ่มกำลังซื้อระดับพรีเมียมในรัศมี 10 กม. กว่า 2.5 ล้านคน ย้ำวิสัยทัศน์ ‘Flagship of the Future’ ผลักดันพหลโยธินสู่แลนด์มาร์กระดับโลก