ไทยเบฟ แผนเจาะอาเซียน’ฐาปน’ไม่ปรับเป้าแต่เปลี่ยนคนทำงาน ยุทธวิธีมุ่งสู่ ‘มัลติ โลคัล แชมเปียน’

‘ฐาปน’ ฝ่าความท้าทายเศรษฐกิจ พาไทยเบฟ ‘มุ่งสู่ PASSION 2030’ ผู้นำ F&B ตลาดอาเซียน ย้ำคงแผนเดิมไม่ปรับเป้าหมายแต่จะเปลี่ยนผู้บริหารแก้วิธีทำงาน ยอดขาย 9 เดือนแตะ 2.58 แสนล. กำไรลดลง 4%

 

 

‘ฐาปน สิริวัฒนภักดี’ ผู้บริหารสูงสุดกลุ่มไทยเบฟ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) พร้อมทีมผู้บริหาร 4 กลุ่มธุรกิจ สุรา เบียร์ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และอาหาร ร่วมขึ้นเวทีใหญ่ประจำปี 2568 พร้อมฉายทิศทางธุรกิจภายใต้ ‘PASSION 2030’ ในฐานะผู้นำที่มั่นคงและยั่งยืนของอาเซียน ในธุรกิจเครื่องดื่มและอาหาร

 

สำหรับในปี 2568 นี้ ‘ฐาปน’ กล่าวในช่วงที่ผ่านมา ‘ไทยเบฟ’ วางยุทธศาสตร์เปลี่ยนผ่านองค์กรควบคู่กับการดำเนินกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว

 

โดยหนึ่งในแผนงานสำคัญคือ การผนวกรวมธุรกิจและการดำเนินงานของบริษัท เฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ, ลิมิเต็ด (“F&N”) ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม

 

นอกจากนี้ ไทยเบฟ ยัง เร่งทำตลาดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ภายใต้ 2 กลยุทธ์หลักต่อเนื่อง คือ

 

  1. ‘Reach Competitively’ การเข้าถึงผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการขยายเครือข่ายการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกช่องทาง
  2. ‘Digital for Growth’ หรือ ดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนการเติบโต เสริมศักยภาพในการขยายธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเสริมสมรรถภาพและประสิทธิผลของการดำเนินงาน ควบคู่ไปกับการเชื่อมโยงเครือข่ายคู่ค้าและผู้บริโภค

 

“‘ไทยเบฟ’ยังคงเป้าหมายเดิมตามแผนที่ที่วางไว้ในทุกด้าน ไม่มีการปรับเปลี่ยนอย่างแน่นอน เพราะว่าแผนกืคือแผน ด้วยหากไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ก็ต้องปรับเปลี่ยนผู้บริหาร และวิธีการทำงาน”

 

ฐาปน กล่าวต่อถึงแนวทางธุรกิจภายใต้ ‘PASSION 2030’ ที่จะต้องมองทั้งตลาดในภูมิภาคฯ สำหรับธุรกิจเครื่องดื่มและอาหาร โดยเฉพาะอีกหนึ่งกำลังซื้อที่ใหญ่มาก คือ ตลาดผู้บริโภค ‘มุสลิม’ ที่พบว่ามีอัตราการเติบโตสูงและน่าสนใจมาก ทำให้ไทยเบฟเร่งการลงทุนเพื่อหาโอกาสใหม่ในตลาดนี้

 

จากในช่วงที่ผ่านมา ไทยเบฟ เข้าลงทุนสำคัญในมาเลเซีย โดยก่อตั้งโครงการฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ ‘AgriValley’ วางเป้าหมายโคนม 20,000 ตัว เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ความยั่งยืนของบริษัทฯ โดยโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของงบลงทุนรวม 18,000 ล้านบาทในปี 2568

 

เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่ก้าวถัดไป ไทยเบฟมุ่งมั่นเสริมความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำตลาดในประเทศ พร้อมขยายโอกาสในตลาดต่างประเทศ และพัฒนาศักยภาพจากการผนึกกำลังระหว่างกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ นอกจากนี้ กลุ่มยังแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน รวมถึงมุ่งพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลและการใช้เทคโนโลยี เพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานและการกระจายสินค้า ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาบุคลากร ตามแผนการดำเนินงานที่กำหนดไว้ภายใต้ PASSION 2030

 

ไทยเบฟพร้อมเดินหน้าบนเส้นทางสู่การเติบโตที่แข็งแกร่ง และสร้างสรรค์คุณค่าแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายด้วยความมุ่งมั่นตามพันธกิจ ‘สร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต’ และวิสัยทัศน์สู่การเป็น ‘ผู้นำที่มั่นคงและยั่งยืนของอาเซียน’ ในธุรกิจเครื่องดื่มและอาหาร

 

มุ่งสู่ ‘มัลติ โลคัล แชมเปียน’

 

ด้าน ‘ต้องใจ ธนะชานันท์’ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มงานความยั่งยืนและกลยุทธ์ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าบริษัทฯ วางยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับ PASSION 2030 ด้วยพบว่าตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการขยายตัวและเติบโตเร็วที่สุดในขณะนี้

 

โดยไทยเบฟ วางแนวทางการทำตลาดในแต่ละประเทศในภูมิภาคฯ ภายใต้กลยุทธ์การเป็น ผู้นำตลาดในแต่ละประเทศท้องถิ่น (Multi Local Champion) ด้วยความหลากหลายแบรนด์ผลิตภัณฑ์ในพอร์ตของไทยเบฟ โดยเฉพาะเครื่องดื่มทั้งกลุ่มแอลกอฮอล์ และ นันแอลกอฮอล์ ในตลาดที่ไทยเบฟฯ มีความแข็งแกร่ง

 

“ไทยเบฟอยากเป็นมัลติโลคัลแชมเปียนในหลายๆ ประเทศ ด้วยเราอาจแตกต่างไปจากแบรนด์เครื่องดื่มน้ำอัดลมระดับโลกอย่าง เป๊ปซี่ หรือ โคคาโคล่า โค้ก ที่มีเพียงแบรนด์เดียวแต่เล่นได้ทั้งโลก”

 

ทั้งนี้ไทยเบฟ จะใช้จุดแข็งความแกร่งการเป็นผู้นำในตลาดท้องถิ่น เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในแต่ละตลาดให้ครอบคลุมมากที่สุด โดยเฉพาะในช่องทางร้านค้าปลีกท้องถิ่น หรือ โชห่วย ดังนั้นไทยเบฟ จึงต้องใช้ทั้ง2 กลยุทธ์ Reach Competitively และ Digital for Growth เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Passion 2030

 

“ถ้าเราอยากเป็นโลคัลแชมเปียน เราต้องลึกต้องเข้าไปในโชห่วยได้ทุกที่ ดังนั้น รีชฯ คือ แนวทางการทำงานของเรา โดยสิ่งที่ไทยเบฟ มีคือความเข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้งที่จะไปตลาดอาเซียนได้ทุกช่องทาง”

 

ปัจจุบันไทยเบฟ มีพนักงานราว 65,000 คน ครอบคลุมตลาด 10 ประเทศ แบ่งกลุ่ม ประเทศในอาเซียน คือ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม เมียนมา และ เตรียมเข้าตลาดเชิงรุกในกัมพูชา ปลายปี2568 นี้ ส่วนอีก 4 ประเทศ คือ จีน สก็อตแลนด์ นิวซีแลนด์ และ ฝรั่งเศส

 

สำหรับ ในช่วง 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ไทยเบฟมีรายได้จากการขายรวม 258,621 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  โดยกลุ่มมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายตัดบัญชี (EBITDA) ลดลง 4 % จากปีก่อน เป็น 45,026 ล้านบาท

 

 

 

 

 

Alternate-X สรุปให้ 

 

ไทยเบฟย้ำแผน PASSION 2030 มุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในอาเซียน โดย ‘ฐาปน สิริวัฒนภักดี’ นายใหญ่ไทยเบฟ ยังคงเป้าหมายเดิม แต่เปลี่ยนวิธีการทำงานและทีมผู้บริหาร พร้อมย้ำ 2 กลยุทธ์หลัก Reach Competitively และ Digital for Growth พร้อมเดินหน้าผนึกกำลังกับ F&N พร้อมลงทุนในมาเลเซียโครงการ AgriValley ตั้งเป้าเป็น Multi Local Champion ครองใจผู้บริโภคในแต่ละประเทศท้องถิ่น

 

บทความล่าสุด

COLLABORATE IDEAS, CREATE SUCCESS


FOLLOW US

© 2024 Maxideastudio. All Rights Reserved.