ทาโร อยู่มากว่า 40 ปีไม่ขอแก่แต่ไปต่อ’สแน็ก’ เพื่อโลกขยายไลน์ใหม่ตลาดสุขภาพ-สูงวัย

‘ทาโร’ มุ่งสุ่ธุรกิจเพื่อสังคม ปรับใหม่แนวคิดตลอดกระบวนการผลิตควบการตลาดยั่งยืน มุ่งสู่ ‘สแน็ก’ แห่งอนาคต เจาะหมดทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่-สูงวัย

 

วิภาส จิรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี เอม ฟูด จำกัด ผู้ผลิตสินค้าขนมขบเคี้ยวปลาสวรรค์ทาโร ของกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯ วางแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าตลอดห่วงโซ่การผลิต (Value Chain) โดยเฉพาะลดส่วนเกินเหลือทิ้ง (Waste) จากเนื้อปลาซึ่งเป็นวัตุถิบหลักในการผลิตสินค้าปลาสวรรค์ทาโร ในรูปแบบต่างๆ  รวมถึงบรรจุภัณฑ์ (แพ็คเกจจิ้ง) ซองสินค้า เพื่อสร้างประโยชน์ให้ได้สูงสุด

 

จากที่ผ่าน ปลาหนึ่งตัวใช้ประโยชน์ได้ราว 40% ส่วนที่เหลือ 60% จะเป็นของเสียด้วยเป็นส่วนของ หัว หนัง และ ก้างปลา หรือราว 30% จะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์  และอีก 30% จะเป็นส่วนของพุงและใส้ปลา ซึ่งจะถูกนำไปใช้ผลิตเป็นปุ๋ยอินทรีย์

 

อย่างไรก็ตาม หลังการปรับแนวทางการพัฒนาสินค้าให้สอดคล้องด้านความยั่งยืน จากเดิมที่โรงงานสั่งเฉพาะวัตถุดิบเนื้อปลาบด (ซูเรมิ) จากซัพพลายเออร์เท่านั้น แต่จากนี้ไปจะมีการทำงานร่วมกันเพื่อให้จัดส่งฟู้ด เวสต์ ในส่วนดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการผลิตใหม่ เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบผลิตเป็นสินค้าสแน็กรายการใหม่ ที่ปัจจุบันมีสินค้าทำตลาดแล้ว คือ ปลาสวรรค์ทาโร่ แผ่นแซ่บ  เป็นต้น

 

”โรงงานฯ  ทำงานร่วมกับทีมวิจัยและพัฒนามาก่อนหน้านี้ราว 2 ปี เพื่อลดของเสียจากกระบวนการผลิตให้ได้น้อยที่สุด พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับส่วนเกินของวัตถุดิบหลักซูเรมิ ไปสู่สินค้าตัวใหม่ในพอร์ตปลาสวรรค์ทาโร่“

วิภาส กล่าว

ขยายไลน์ใหม่สูงวัย-เพื่อสุขภาพ

 

ด้าน ปิย สมุทรโคจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้ทำตลาดสินค้าขนมขบเคี้ยว ปลาสวรรค์ทาโร กล่าวว่า บริษัทฯ อยู่ในตลาดมา 48 ปี มีสินค้าเรือธงในกลุ่มสแน็ก คือ ปลาสวรรค์ทาโร่ เป็นแบรนด์ในตลาดมากว่า 40 ปี เช่นกัน ถึงปัจจุบันได้พัฒนานวัตกรรมสินค้าให้มีความหลากหลาย รวมถึงการจัดกิจกรรมการตลาดรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้ในทุกรุ่น

 

ล่าสุด บริษัทฯ ร่วมกับพันธมิตรองค์กรรายใหญ่ จัดกิจกรรมเพื่อมีส่วนร่วมในสังคมภายใต้แคมเปญ ‘ทาโร รักษ์โลก โชคเด้ง’ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 – 31 มกราคม 2569  ร่วมลุ้นของรางวัลทุกเดือน รวมมูลค่ากว่า 16 ล้านบาท

 

โดยตลอดระยะเวลา 5 เดือนของแคมเปญฯ ดังกล่าว บริษัทฯ วางเป้าหมายในเชิงการสร้างการรับรู้การนำกลับไปใช้ใหม่ของแพ็คเกจจิ้งพลาสติกสินค้าจากการคัดแยกขนาดตามแต่ละประเภทของซองบรรจุปลาสวรรค์ทาโร่ ให้กับผู้บริโภค ได้มีส่วนร่วมผ่านกิจกรรมการตลาดในแคมเปญฯ นี้ และต่อยอดไปสู่ความร่วมมือระหว่างพันธมิตรหรืองค์กรอื่นได้ต่อไปในอนาคต

 

อ่านบทความอื่นที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

 

 

ปิยะ กล่าวว่า ผลิตตภัณฑ์ปลาสวรรค์ทาโร่ ใน6 เดือนแรกของปี 2568 มีอัตราการเติบโตราว 6%  โดยครองส่วนแบ่งอันดับ1 ของกลุ่มปลาเส้น ด้วยส่วนแบ่งมากกว่า 90% โดยตลาดกลุ่มนี้เติบโตราว 5% และเป็นอันดับ 3 ของตลาดขนมขบเคี้ยวมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท (ในครึ่งแรกของปี 2568 จากมูลค่ารวมตลาดแสน็กราว 4 หมื่นล้านบาท) มีการเติบโตราว 10% ปัจจัยหลักมาจากการเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่ในตลาดกลุ่มบุกปรุงรส หรือ หมึกกรุบ ที่เข้ามาสร้างสีสันในตลาดในช่วงที่ผ่านมา

 

บริษัทฯ คาดว่าในไตรมาสสี่ปีนี้ และไตรมาสแรกปีหน้า ตลาดกลุ่มปลาเส้น จะกลับมาคึกคักด้วยเข้าสู่หน้าขาย จากการทำตลาดสินค้าหลากหลายรายการใหม่ อาทิ ทาโร เคลือบชีส, ทาโร บิ๊กโรล เป็นต้น ซึ่งบริษัทฯ ยังไม่มีแผนปรับราคาสินค้าในขณะนี้

 

จากปัจจุบัน สินค้าปลาสวรรค์ทาโร มียอดขายหลักในช่องทางโมเดิร์นเทรด (MT) และ ช่องทางร้านสะดวกซื้อ (CVS)  รวมกันสัดส่วน 60% และที่เหลือในช่องทางค้าปลีกดั้งเดิม (Traditional Trade)ราว 40% โดยกลุ่มสินค้าระดับราคา 10 บาท จะได้การตอบรับดี

 

 

“ตลาดสแน็กถือเป็นสินค้า อิมพัลส์ คาแรกเตอร์ ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อด้วยอารมณ์เป็นหลัก ซึ่งไม่มีผลกระทบมากนักแม้ภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัว ด้วยยังเป็นตลาดที่มีการเติบโตเฉลี่ยทุกปีราว 4-5% ในช่วงสถานการณ์ปกติก่อนมีสินค้าแคทตากอรี่ใหม่เข้ามาในตลาด”
ปิยะ กล่าว

 

 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังทำตลาดส่งออกในรูปแบบรับจ้างผลิต (OEM)อาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตดีตามความต้องการของตลาด จากคำสั่งซื้อ (Order) ที่เข้ามาแล้วในไตรมาสสามต่อเนื่องในไตรมาสสี่ ปีนี้ รวมถึงมีแผนเข้าไปทำตลาดในประเทศจีน ที่ขณะนี้ดำเนินการด้านลิขสิทธิ์เครื่องหมายทางการค้าเรียบร้อยแล้ว รวมถึงการเข้าตลาดในสหรัฐอเมริกา ในรูปแบบอีคอมเมิร์ซ ด้วย ส่วนตลาดในประเทศกัมพูชา ขณะนี้ยังชะลอแผนธุรกิจออกไปก่อนจากปัญหาตความขัดแย้งระหว่างสองประเทศไทยและกัมพูชา ในช่วงที่ผ่านมา “จากภาพรวมทั้งหมดคาดผลักดันให้บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตราว 6-7% ในปี 2568 นี้” ปิยะ กล่าว

 

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังวางแผนในอีก3-5 ปีข้างหน้า เตรียมขยายธุรกิจภายใต้ไลน์การผลิตใหม่ ทั้งในกลุ่มสินค้าเพื่อคุณประโยชน์ดูแลสุขภาพ สินค้าเสริมแคลเซียมสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อตอบโจทย์และรอบรับการเข้าสู่สังคมสังคมสูงวัยเต็มตัว ในอนาคตด้วย รวมไปถึงทยอยปรับสูตรสินค้าโดยทยอยลดโซเดียมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความคุ้นชินในรสชาติให้กับผู้บริโภค  เพื่อสร้างความยั่งยืนธุรกิจไปพร้อมตลาดในอนาคต

 

ทั้งนี้ ยังสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่และให้ความสำคัญในการใช้ชีวิตที่มีส่วนร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมรอบด้าน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนให้บริษัท มุ่งพัฒนาสินค้าสแน็กรายการใหม่ๆ  พร้อมจัดกิจกรรมการตลาด ให้สอดรับกระแสความยั่งยืน ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

Alternate-X สรุปให้

 

‘ทาโร’ พัฒนาแนวทางการผลิตใหม่ ลดของเสียจากปลาและบรรจุภัณฑ์สร้างมูลค่าเพิ่มโดยนำฟู้ดเวสต์มาผลิตเป็นสแน็กใหม่ เช่น ทาโร่แผ่นแซ่บ พร้อมจัดแคมเปญ ‘ทาโร รักษ์โลก โชคเด้ง’ ร่วมรีไซเคิลซองพลาสติก เตรียมขยายไลน์สแน็กเพื่อสุขภาพและผู้สูงวัย รองรับสังคมสูงวัย คาดการเติบโตธุรกิจปี 2568 ราว 6-7% พร้อมแผนรุกตลาดต่างประเทศ

 

 

บทความล่าสุด

COLLABORATE IDEAS, CREATE SUCCESS


FOLLOW US

© 2024 Maxideastudio. All Rights Reserved.