ธุรกิจที่พลิกจาก ‘OEM’ สู่รองเท้าสุขภาพแบรนด์ ‘TALON’ มาเพื่อเจาะตลาด 5 พันล.โต 4-10% ทุกปี

TALON แบรนด์รองเท้าเพื่อสุขภาพกับแผนเจาะตลาดลูกค้าทั้ง B2C และ B2B ด้วยกลยุทธ์ที่มาครบทั้งโปรดักส์และงานบริการจากกูรูสุขภาพเท้า ‘Podiatrist’ ที่มี3 คนในไทยเท่านั้น พร้อมพาแบรนด์รองเท้าเพื่อสุขภาพของคนไทยไปตลาดระดับสากล

 

พรศักดิ์ เตชะสมบูรณากิจ กรรมการบริหารฝ้ายการตลาด บริษัท ฟุต คลีนิค จำกัด ผู้ผลิตรองเท้าเพื่อสุขภาพให้กับแบรนด์ชั้นน้ำทั้งในประเทศและต่างประเทศมากว่า 54 ปี เปิดเผยว่าในปี 2568 นี้ บริษัทวางแผนทำตลาดเชิงรุกธุรกิจรองเท้าเพื่อสุขภาพอย่างจริงจัง ภายใต้แบรนด์ ‘Rebecca Lim’s by Talon’ นำเข้าจากประเทศเกาหลี พร้อมบริการรับสั่งตัดรองเท้าเพื่อสุขภาพตามความต้องการเฉพาะบุคคล (Tailor-made)

 

สำหรับแนวทางดังกล่าว เป็นการปรับตัวทางธุรกิจของบริษัทฯจากการรับจ้างผลิต(OEM) มาสู่การสร้างแบรนด์ TALON พร้อมทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2562 หรือราว5-6 ปีก่อน โดยเป็นช่วงจังหวะเดียวกับการแพร่ระบาดโควิด-19 เกิดขึ้น ด้วยเห็นโอกาสจากทั้งกระแสการดูแลสุขภาพรอบด้านของผู้คน ซึ่งบริษัทฯ ได้ใช้ความชำนาญและเชี่ยวชาญจากผู้ผลิตรองเท้ามากว่า 5 ทศวรรษให้กับรองเท้าแบรนด์ระดับโลก อาทิ Hush Puppies และ Fila ฯลฯ

 

“ในจังหวะนั้นมองแล้วว่าโออีเอ็มไม่มีอนาคต จากการแข่งขันด้านกำลังการผลิตด้วยต้นทุนต่อหน่วยสูงกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งจากทั้งจีน อินโดนีเซีย และ เวียดนาม ที่ได้เปรียบจากอีโคโนมี ออฟ สเกล ขนาดใหญ่ ทั้งสินค้า, ราคาวัตถุดิบ และเทคโนโลยีการผลิต ทำให้โรงงานรองเท้าไทยต้องปรับตัวและหันมาสร้างแบรนด์เพื่อทำตลาดซึ่งจะเป็นทางรอด” พรศักดิ์ กล่าวพร้อมเสริมว่า

 

“ธุรกิจรับจ้างผลิตรองเท้าก่อนยุคโควิด เคยสร้างรายได้หลักร้อยล้านบาทต่อปี แต่จากการเข้ามาของผู้ผลิตในต่างประเทศที่มีต้นทุนต่ำกว่า ทำให้บริษัทมีรายได้หายไปกว่า 40-50% เหลือเพียงราว 50 ล้านบาท”

 

พรศักดิ์ กล่าวว่า ธุรกิจได้พยายามปรับตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วยเป็นกิจการ ‘กงสี’ มีหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง กระทั่งเมื่อได้จังหวะเหมาะสม ทำให้ ‘พรศักดิ์’ ตัดสินใจทำธุรกิจในแบบคนรุ่นใหม่พร้อมสร้างแบรนด์ ‘TALON’ ขึ้นมาทำตลาดรองเท้าต่อเนื่อง

 

ส่วนที่มาของชื่อแบรนด์ TALON หมายถึงส่วนกลางของฝ่าเท้า และในภาษาอิตาลี ยังหมายถึง ‘กรงเล็บ’ หรือ ‘อุ้งเท้า’’ ของนกเหยี่ยว ซึ่งสะท้อนถึงความหมายของเท้า อีกนัยหนึ่งด้วย

 

สร้างแบรนด์แล้วต้องไปต่อตลาดที่เก่ง

 

พรศักดิ์ เสริมต่อถึงแนวทางการทำตลาดรองเท้าเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ Rebecca Lim’s by ‘TALON’ ในไทย จะโฟกัสในกลุ่มรองเท้าเพื่อสุขภาพที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 4-10% ทุกปี จากปัจจุบันตลาดรวมรองเท้าในไทย มีมูลค่าราว 98,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดรองเท้ากีฬาและลำลอง กว่า 16,000 ล้านบาท (รองเท้ากีฬาราว 6,500 ล้านบาท) และที่เหลือเป็นรองเท้าอื่นๆ อาทิ รองแฟชั่น ที่มีสัดส่วนใหญ่สุดราว 60-70% ของตลาด

 

จากสัดส่วนตลาดรองเท้าสุขภาพที่มีแนวโน้มเติบโตดังกล่าว ที่เขามองว่ายังไม่มีผู้เล่นแบรนด์ในประเทศที่เข้ามาเล่นในตลาดกลุ่มนี้จริงจัง ซึ่งจะเป็นโอกาสของ TALON ในการสร้างการรับรู้แบรนด์ในฐานะผู้เชี่ยชาญด้านรองเท้าเพื่อสุขภาพอย่างจริงจัง

 

โดยทำตลาดใน 2 ช่องทางสำคัญ คือ

 

  1. ธุรกิจต่อผู้บริโภค (B2C) วางจำหน่ายในศูนย์การค้าและคีออสก์โรงพยาบาล ปัจจุบันมี 10 แห่ง อาทิ ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัล ลาดพร้าว, สยามทาคาชิมายะ, โรงพยาบาล กรุงเทพฯ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์, โรงพยาบาลพระราม9 และศูนย์สุขภาพเท้าฟุต คลินิก พระราม2 เป็นต้น และมีแผนเพิ่มอีก 1-2 สาขาใหม่ คาดในปีนี้จะมีสาขาให้บริการราว 12-13 แห่ง

 

  1. ธุรกิจต่อธุรกิจ (B2B) โดยบริษัทฯ ร่วมเป็นพันธมิตรกับโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ ที่ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน และผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพเท้า อย่างรองช้ำ ที่ต้องการตัดรองเท้าสุขภาพเฉพาะบุคคล

 

“ปัจจุบันโรงพยาบาลเอกชนที่ดูแลผู้ป่วยเบาหวาน จะให้การรักษาผู่ป่วยแบบครอบคลุมไปถึงการดูแลสุขภาพเท้าและต้องการรองเท้าเพื่อสุขภาพหรือที่เรียกว่ารองเท้าเบาหวานเข้ามาเสริมการรักษาผู้ป่วย ซึ่งบริษัทจะเป็นผู้เข้าไปให้บริการเทเลอร์-เมดในจุดนี้ โดยที่ผ่านมาพบว่า มีผู้ป่วยต่างชาติแถบตะวันออกกลาง ให้การตอบรับรองเท้าเบาหวาน เป็นอย่างมากและไม่เกี่ยงราคา”

พรศักดิ์ กล่าวพร้อมเสริมว่า

 

 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมให้บริการรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ใหม่ ผ่านการสั่งตัดแผ่นรองเท้าเพื่อสุขภาพเฉพาะบุคคลได้โดยทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงความต้องการของผู้ใช้บริการรองเท้าเพื่อสุขภาพ ได้สะดวกมากขึ้น

 

ขณะที่สินค้ารองเท้าเพื่อสุขภาพ Rebecca Lim’s  by TALON วางระดับราคาอยู่ที่ 2,290-4,490 บาทต่อคู่ และบริการสั่งตัด (Tailot-made) วางราคาอยู่ที่ 4,490-5,990 บาท

 

 

รู้จริงเรื่องสุขภาพเท้า ที่เดียวในไทย

 

 

พรศักดิ์ กล่าวต่อถึงจุดเด่นรองเท้าเพื่อสุขภาพ Rebecca Lim’s  By Talon มีความแตกต่างไปจากคู่แข่งในตลาดเดียวกันทั้งแบรนด์ในและต่างประเทศ คือ 1. เทคโนโลยีการผลิตรองเท้าด้วยวัสดุ นาโนไมโครไฟเบอร์​ ให้สัมผัสความนุ่ม เบา ขยายตัวตามอุ้งเท้าของผู้สวมใส่ และ 2. งานบริการ จากผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาด้านสุขภาพเท้าที่เหมาะสมตามความต้องการของลูกค้า ที่มีปัญหาเท้าด้านต่าง    ๆ อาทิ  เท้าแบบ เท้าบวม นิ้วปืน กระดูกไปน ผู้ป่วยเบาหวาน ดุ้งเท้าสูง เป็นต้น

 

นอกจากนี้ TALON ยังให้บริการคำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเท้าโดยเฉพาะ หรือ ‘Podiatrist’ ซึ่งมีอยู่เพียง 3 ท่านในประเทศไทยเท่านั้น เพื่อให้คำแนะนำพร้อมแก้ไขในทุกปัญหาสุขภาพเท้า ซึ่งประจำอยู่ที่ Foot Clinic by TALON ศูนย์สุขภาพเท้าแบบครบวงจรแห่งแรกของประเทศไทย พระราม2

 

 

“TALON ตอกย้ำความเชี่ยวชาญรองเท้าเพื่อสุขภาพเป็นอย่างมาก พร้อมพัฒนาบุคลากรเฉพาะทาง คือ โพรไดอะทิสต์ มาให้บริการที่ศูนย์สุขภาพเท้าฯ ซึ่งเป็นสายอาชีพที่ได้การยอมรับทางการแพทย์ในประเทศอิตาลี”

พรศักดิ์ กล่าว

 

ทั้งนี้ จากแผนดังกล่าว บริษัทวางเป้าหมายรายได้ในปี 2568 อยู่ที่ 30 ล้านบาท มาจากธุรกิจ B2C สัดส่วน 90% และ B2C 10% และในปี 2569 คาดรายได้เติบโตเท่าตัว ราว 60 ล้านบาท จากในปี 2566-2567 มีรายได้ราว 30-40 ล้านบาท  พร้อมวางเป้าหมายใน3-5 ปีขยายการทำตลาดรองเท้าเพื่อสุขภาพ ในต่างประเทศ อาทิ ดูไบ และ ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูงและเข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ

 

Alternate-X สรุปให้ 

 

ฟุต คลีนิค ผู้ผลิตรองเท้าเพื่อสุขภาพกว่า 54 ปี กับแผนรุกตลาดจริงจังในปี 2568 ด้วยแบรนด์ ‘Rebecca Lim’s by Talon’ และบริการสั่งตัดเฉพาะบุคคล หลังปรับตัวจากธุรกิจ OEM ที่รายได้ลดลงอย่างมากจากคู่แข่งต่างประเทศ สู่การสร้างแบรนด์ของตนเอง  โดย ‘TALON’ เล็งเจาะตลาดรองเท้าเพื่อสุขภาพมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ทั้งช่องทาง B2C ในห้างฯ และโรงพยาบาล รวมถึง B2B ร่วมกับ รพ.เอกชนสำหรับผู้ป่วยเฉพาะทาง โชว์จุดเด่นแบรนด์ ด้วยเทคโนโลยีวัสดุ นาโนไมโครไฟเบอร์ และการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเท้า (Podiatrist) เพื่อตอบโจทย์ทุกปัญหาสุขภาพเท้า คาดการณ์รายได้ปี 2568 ที่ 30 ล้านบาท และวางแผนขยายสู่ตลาดต่างประเทศ เช่น ดูไบและญี่ปุ่น ภายใน 3-5 ปี 

บทความล่าสุด

COLLABORATE IDEAS, CREATE SUCCESS


FOLLOW US

© 2024 Maxideastudio. All Rights Reserved.