ซิซซ์เล่อร์ ใช้กลยุทธ์ราคา ซับสคริปชั่น โมเดล ‘สลัดบาร์’ ประหยัดกว่าจ่ายรายครั้ง แม่เหล็กเพิ่มความถี่ดึงลูกค้าเข้าร้านได้ 3 เท่าตัว ตอบโจทย์เทรนด์รักตัวเองให้มากต้องดูแลสุขภาพ
‘อนิรุทร์ เดวิด คอลลินส์’ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็มเอฟ คาเฟ่ แอนด์ เรสเตอรองต์ จำกัด ผู้บริหารธุรกิจร้านสเต๊กซิซซ์เล่อร์ (Sizzler) เปิดเผยว่า เทรนด์ใหญ่ผู้บริโภคให้ความสำคัญด้านความเป็นอยู่เพื่อสุขภาพ (Healthy living) ทั้งการออกกำลังกาย รวมถึงการรับประทานอาหาร มีแนวโน้มขยายตัวสูงต่อเนื่องหลังการแพร่ระบาดโควิด-19
ทั้งนี้ ซิซซ์เล่อร์ ได้นำเทรนด์ดังกล่าวมามาปรับใช้ร่วมการทำตลาดเมนู ‘สลัดบาร์’ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดแข็งของร้านเข้าไปมีส่วนร่วมในตลาดสุขภาพมากขึ้น เพื่อเข้าถึงกระแสดังกล่าวในกลุ่มผู้บริโภคยุคปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน ยังได้ปรับปรุง (revamp) สลัดบาร์ พร้อมเพิ่มวัตถุดิบเน้นซูเปอร์ฟู้ด อาทิ บัควีท ควินัว ผักเคล โดยนำมาพัฒนาในคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา เช่น ไตรมาส 1 เป็นช่วงหลังกลับจากเที่ยวปีใหม่ จะเน้นวัตถุดิบเสริมภูมิคุ้มกัน (Immunity) ส่วนไตรมาส 2 ช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูกาล จะมุ่งการบำรุงร่างกาย ด้วยวัตถุดิบ Energy Booster เป็นต้น
โดยให้บริการควบคู่กับเมนูสลัดบาร์แบบดี.ไอ.วาย (D.I.Y.) เพื่อให้ลูกค้าเลือกจับคู่เมนูสลัดได้ด้วยตัวเอง พร้อมลดเมนูสลัดมิกซ์ (Mixed Salad) ซึ่งมาจากการรับฟังการตอบรับ(Feedback)ผู้บริโภค ที่มีความต้องการหลากหลายมากขึ้น
อนิรุทร์ กล่าวว่า ซิซซ์เล่อร์ ยังนำร่องให้บริการภายใต้โมเดลซับสคริปชั่นในเมนูสลัด (Salad subscription) ระบบสมัครสมาชิกสำหรับทานสลัด 5 ครั้ง ในราคา 700 บาท ให้ความประหยัด 30% เทียบกับการกินสลัดบาร์แบบรายครั้ง มีราคาอยู่ที่ 199 บาท/ครั้ง และจากการทำตลาดเชิงรุกเมนูสลัดบาร์ ในช่วง 6 เดือนแรกปี 2568 พบว่ามีฐานสมาชิกซิซซ์เล่อร์ ขยายตัว 46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
“หลังทำระบบสลัดซับสคริปชั่น สามารถเพิ่มความถี่การมารับประทานซิซซ์เล่อร์ได้มากกว่าเดิมถึง 3 เท่าตัว และกลับมาซื้อโปรแกรมซ้ำในปริมาณเยอะกว่าเดิมด้วย” อนิรุทร์ กล่าวพร้อมเสริมว่า
นอกจากนี้ ซิซซ์เล่อร์ ยังอยู่ระหว่างศึกษาการนำระบบซับสคริปชั่นใช้ร่วมกับ เมนูอื่น ๆ เช่น เมนูอาหารกลางวัน เพื่อเข้าถึงกลุ่มพนักงานออฟฟิศในฐานะแบรนด์สเต๊กระดับพรีเมียม ราคาเข้าถึงง่าย (Affortdable)
อนิรุทร์ กล่าวว่า
“สัดส่วนยอดขายหลักกว่า 50% ของซิซซ์เล่อร์ มาจากเมนู ‘สเต๊ก’ แต่ผู้เข้ามารับประทานอาหารในร้าน 100% จะรับประทานสลัดบาร์ด้วยแน่นอน”
พร้อมเสริมว่า “สลัดบาร์ซิซซ์เล่อร์ เป็นตำนานมา 30 ปี ไม่มีใครล้มได้ ส่วนคู่แข่งในตลาดสเต๊กก็ไม่สามารถทำสลัดอย่างเราได้ หรือถ้ามีอาจต้องเสียเงินจ่ายเพิ่ม“
ปัจจุบันซิซซ์เล่อร์ มีสาขารวม 64 สาขา และมีแผนเปิดเพิ่ม 1 สาขาในปีนี้ ส่วนตลาดต่างประเทศ มีสาขาในญี่ปุ่น 10 แห่ง และเวียดนาม 1 แห่ง พร้อมวางแผนขยายตลาดประเทศใหม่ ๆ 1 แห่ง ภายในปี 2568 โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา ซิซซ์เล่อร์ มีค้าเข้ามาใช้บริการราว 9.6 ล้านคน เติบโต 24% (yoy) มีฐานสมาชิก (Member) ราว 9.9 แสนราย คาดในกลางเดือน ก.ค. นี้ จะทะลุ 1 ล้านราย
Alternate-X สรุปให้
ซิซซ์เล่อร์เปิดโมเดล ‘Salad Subscription’ สมัครสมาชิกสลัดบาร์ 5 ครั้ง ราคา 700 บาท ประหยัดกว่าจ่ายรายครั้งถึง 30% กลยุทธ์นี้ช่วยเพิ่มความถี่ในการเข้าร้านถึง 3 เท่า ตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพที่มาแรง พร้อมปรับสลัดบาร์ใหม่ เพิ่มวัตถุดิบซูเปอร์ฟู้ด และเปิดให้ลูกค้า D.I.Y. เมนูตามชอบ ฐานสมาชิกเติบโต 46% ในช่วงครึ่งปีแรกปี 2568 ซิซซ์เล่อร์วางแผนขยายโมเดลซับสคริปชันไปยังเมนูอื่น เช่น มื้อกลางวัน เจาะกลุ่มพนักงานออฟฟิศ