‘สารัช’ ขยายเที่ยวเชิงเกษตร ทำพิพิทธภัณฑ์มะขามหวาน ชวนจอยโฮมสเตย์วิถีเพชรบูรณ์

‘Sarach’ แบรนด์ต้นตำรับมะขามปรุงรสจี๊ดจ๊าด ที่อยู่ในตลาดมานานร่วม 20 ปี พร้อมแผนอนาคตขยายสู่ธุรกิจท่องเที่ยว ในระดับจังหวัดเพชรบูรณ์

 

 

‘สารัช กมลธรไท’ หรือ ‘คุณแฟลช’ วัย 43 ปี ปัจจุบันนั่งเก้าอี้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สารัช มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ทำตลาดผลิตภัณฑ์มะขามแปรรูป ‘สารัช’ (Sarach) ร่วมกับคุณแม่-สุภาลักษณ์ กมลธรไท ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งธุรกิจในยุคแรกๆ ตั้งแต่เมื่อ 50 ปีก่อน

 

คุณแฟลช เล่าโปรไฟล์ส่วนตัวเล็กน้อย ต่อการเข้ามาบริหารธุรกิจร่วมกับคุณแม่ในบริษัทสารัช มาร์เก็ตติ้ง ในเกือบทันที หลังจบการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านการตลาด และการท่องเทื่ยวในระดับปริญญาตรี จากวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล MUIC

 

ด้วยเจ้าตัวเองก็รู้เป็นอย่างดีเช่นกันว่า เส้นทางธุรกิจมะขามแปรรูปที่ครอบครัวสร้างขึ้นมานี้เป็นดั่ง ‘ข้อเสนอ’ ที่เขาไม่อาจปฏิเสธได้

 

“ผมถือเป็นทายาทกิจการรุ่น 1.5 ครับไม่ได้เป็นรุ่น 2 เพราะทำงานร่วมกับคุณแม่ตั้งแต่เด็ก ในฐานะเด็กเดินมะขามถุงให้กับที่บ้านมาก่อน” สารัช แฟลช แบ็ค เรื่องราวในวันเยาว์ด้วยความสนุก

 

ถึงในวันนี้แบรนด์ ‘สารัช’ มะขามแปรรูปที่ผู้บริโภคคุ้นเคยเป็นอย่างดี โดยเฉพาะสูตรมะขามจี๊ดจ๊าดในช่องทางร้านสะดวกซื้อ ซึ่งในปีนี้ สารัชฯ เตรียมกลับมาทวงแชมป์ยอดขายอันดับหนึ่งในตลาดมะขามแปรรูปมูลค่ากว่า พันล้านบาท

 

โดยเตรียมใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ปรับโฉมใหม่ (Refresh) แบรนด์ให้มีความสดใสมากขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี พร้อมแตกอีก3แบรนด์สินค้าใหม่ รวมทั้งสิ้นจะมี 4 แบรนด์เพื่อทำตลาดในทุกกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุม ประกอบด้วย

 

  • สารัช (SARACH TAMARIND) วางตำแหน่งเป็นแบรนด์หลัก ทำตลาดสินค้ามะขามแปรรูป จับกลุ่มเป้าหมายตลาดวงกว้างทั่วไป (Mass Market)
  • Alisa จับกลุ่มเป้าหมายเด็กลง (Youngster) เพื่อรองรับผู้บริโภคในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะกลุ่มสาวสมัยใหม่
  • ASHIRA SAN จับกลุ่มเป้าหมายทั่วไป โดยใช้นวัตกรรม และ รสชาติต่างๆ มาเพิ่มความสนุกให้กับแบรนด์
  • SARACH GOLD สารัช โกลด์ วางตำแหน่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์มะขามระดับ พรีเมี่ยม

 

สารัช บอกว่า ผลิตภัณฑ์ทั้ง 4แบรนด์นี้ จะทำให้สารัช มีสินค้ารวมกันไม่ต่ำกว่า 200 รายการ มากกว่า 30 รสชาติ มีราคาสินค้าแต่ละเอสเคยูเฉลี่ยตั้งแต่ 20-40 บาท ส่วนสารัช โกลด์ วางราคา 120 –  400 บาท

 

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังเลือก ‘คุณแม่-สุภาลักษณ์ กมลธรไท’ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์สารัช เพื่อตอกย้ำความเป็นตัวจริงในฐานะต้นตำรับมะขามแปรรูปแห่งเมืองเพชรบูรณ์ อีกด้วย

 

บริษัทฯ จะใช้กลยุทธ์การทำตลาดผ่านคอนเทนต์ (Content Marketing) พร้อมตั้งสำนักงานอีกหนึ่งแห่งในกรุงเทพฯ ย่านพระราม9 เพื่อดูแลการตลาดและทำงานร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรได้คล่องตัวมากขึ้น เพื่อผลักดันให้แบรนด์สารัช กลับมาเป็นที่จดจำและสร้างยอดขายขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในตลาดมะขามแปรรูป ทั้งในช่องทางร้านสะดวกซื้อ (Convenience Store )และ ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ (Hyper Market) ภายในสิ้นปี 2568 นี้

 

โดยในปีนี้จะมียอดขาย 200 ล้าน และในปี 2570 คาดมียอดขายมากกว่า 300 ล้านบาท และ ขยับเป็นมากกว่า 500 ล้านบาทต่อปีในปี 2572 ซึ่งหมายความว่า สารัชฯ จะต้องขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 3,000 ตัน/ปี และมีสินค้าใหม่อย่างน้อย 3 SKU พร้อมเป็นป้อนวัตถุดิบให้กับองค์กร และสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน รองรับทั้งห่วงโซ่มะขามสู่ตลาดสากล

จากแนวทางนี้ บริษัทฯ ยังได้ทยอยลงทุนไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาทในการปรับปรุงโรงงานเพื่อรองรับทุกตลาดในต่างประเทศ พร้อมผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกตลาด เพื่อผลักดันการเติบโตในตลาดต่างประเทศ มากกว่า 50 %

 

ปักหมุก ‘หล่มเก่า’ แหล่งเที่ยวเชิงเกษตร

 

สารัช เล่าต่อถึงแผนธุรกิจใหม่ในอนาคต ของอาณาจักรสารัช ที่จะไม่หยุดแค่ธุรกิจผลไม้แปรรูปมะขามและอื่นๆ ด้วยยังมองไปต่อถึงการสร้างแลนด์มาร์คใหม่ๆ ในเมืองหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ให้เป็นจุดเช็คอินการท่องเที่ยวเชิงเกษตร (Agritourism) ในอนาคต อีกด้วย

 

โดยนำหลักคิดการเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนมะขามที่มีอยู่มารวมกันเป็นคลัสเตอร์เพื่อจัดเส้นทางการท่องเที่ยวเยี่ยมชมวิถีการเกษตรชุมชนท้องถิ่นที่มี ‘มะขาม’ เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยเฉพาะสวนมะขาม GI ที่มีอัตลักษณ์ประจำถิ่น

 

“ในญี่ปุ่นมีฟาร์มสตรอว์เบอร์รี่ ให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมและทำกิจกรรมตัดลูกสตรอว์เบอรี่กินกันสดๆ เราก็อยากทำให้เมืองหล่มเก่า เพชรบูรณ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวของไทยที่ทำได้แบบนี้”

สารัช บอกอีกถึงโปรเจกต์ส่วนตัว ที่วางไว้ในอนาคต คือ การนำบ้านหลังเก่าที่ครอบครัวเคยอยู่อาศัยร่วมกันมาตั้งแต่วัยเด็ก ที่ปัจจุบันเป็นหน้าร้านขายสินค้าของฝากของที่ระลึกแบรนด์สารัช มะขามแปรรูป ที่ตั้งอยู่ในอำเภอหล่มเก่า

 

 

 

โดยจะนำบ้านหลังนี้ มาปรับปรุงโฉมใหม่ ด้วยจะเป็นทั้งพิพิทธภัณฑ์ ที่เล่าเรื่องราวทั้งผลไม้เศรษฐกิจ มะขามเมืองเพชรบูรณ์ และ เส้นทางแบรนด์สารัช มะขามแปรรูป จากจุดเริ่มต้นถึงในปัจจุบัน พร้อมเติมพื้นที่ห้องพักในรูปแบบ ‘Home Stay’ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนและต้องการสัมผัสวิถีการใช้ชีวิตท้องถิ่นในจังหวัดเพชรบูรณ์ อย่างลึกซึ้ง อีกด้วย

 

 

นอกจากนี้ ยังมีแผนพัฒนาโรงแรมที่พักในรูปแบบรีสอร์ต ซึ่งจะตั้งอยู่ในที่ดินโครงการ สารัช แทมมาริน ฮิลล์’ (Sarach Tamarind Hill) บนพื้นที่ 12 ไร่ ในอำเภอหล่มเก่า เพชรบูรณ์ ซึ่งวางตำแหน่งให้เป็น ‘แลนด์ มาร์ค’ ที่รวบรวมสินค้าของฝากจากเมืองมะขามหวาน พร้อมด้วยคาเฟ่ BOOGA BOOGA และ ร้านขนมจีนเส้นสดสูตรดั้งเดิม (ย่าสนม) เพื่อต้อนรับทุกคนที่เดินทางมาเมืองเพชรบูรณ์แห่งนี้

 

 

“โปรเจกต์ใหม่ทั้งรีสอร์ตและโฮมสเตย์ คาดจะได้เห็นความชัดเจนราว 3-5 ปีหน้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเก็บข้อมูลรายละเอียดด้านต่างๆ ด้วยมองว่าจะสร้างโอกาสทางประสบการณ์ด้านอื่นๆให้กับแบรนด์สารัชในอนาคตได้ด้วย”คุณแฟลช กล่าวทิ้งท้าย

Alternate-X สรุปให้ 

แบรนด์ ‘สารัช’ มะขามปรุงรสในตำนาน เตรียมรีเฟรชแบรนด์ครั้งใหญ่ พร้อมแตกไลน์ 4 แบรนด์รองรับตลาดทุกกลุ่ม พร้อมทุ่มงบลงทุนกว่า 50 ล้านบาททำตลาดและลงทุนโรงงาน พาสู่เป้าหมายยอดขายแตะ 500 ล้านบาทภายในปี 2572 นอกจากนี้ ยังวางแผนขยายธุรกิจท่องเที่ยวเชิงเกษตรในหล่มเก่า เพชรบูรณ์ สร้างแลนด์มาร์คใหม่ทั้งโฮมสเตย์ พิพิธภัณฑ์ และรีสอร์ต

 

 

บทความล่าสุด

COLLABORATE IDEAS, CREATE SUCCESS


FOLLOW US

© 2024 Maxideastudio. All Rights Reserved.