แสนสิริ ย้ำสูตร JV ไปต่อทุนญี่ปุ่น มิตซุย ฟุโดซังฯ ลุยครึ่งหลังปี68 ทำ2 โครงการฯกว่า 6 พันล.

การร่วมทุนพันธมิตรต่างชาติ หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ ‘แสนสิริ’ แมปไว้แต่ต้นปี2568 เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาฯต่างๆ ล่าสุดไปต่อกับ MFADT ทำ2 โครงการอสังหาฯ 2 ทำเลมูลค่ากว่า 6 พันล้านบาท

 

จากเมื่อต้นปีที่ผ่านมา  ‘อุทัย  อุทัยแสงสุข’ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ บอกหนึ่งในแนวทางการดำเนินธุรกิจในปี 2568  เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาฯต่าง ๆ ในรูปแบบการร่วมทุน หรือ เจวี (Joint Venture) มากขึ้นเพื่อใช้เป็นแหล่งทุนในการพัฒนาโครงการต่างๆ ของแสนสิริ

 

ล่าสุด บริษัทฯ เจวี กับพันธมิตร บริษัท มิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ MFADT ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น เจวีใน 2 โครงการใหม่ในครึ่งหลังของปี 2568 นี้

 

 

โครงการแรก

 

  • นาราสิริ บางนา กม.10’ บ้านเดี่ยวระดับลักซูรี่ เอ็กซ์คลูซีฟ วางตำแหน่งเป็นโครงการระดับมาสเตอร์พีซแรกแห่งปี ภายใต้พอร์ตโฟลิโอ Sansiri Luxury Collection ให้ความส่วนตัวแห่งการอยู่อาศัย จำนวน 56 ยูนิต ตั้งอยู่ใน SANSIRI 10 EAST ลักซูรี่ คอมมูนิตี้แห่งใหม่จากแสนสิริ

 

 

โครงการถัดไป

 

  • บุราสิริ จตุโชติ” โครงการบ้านเดี่ยวบรรยากาศรีสอร์ท ดีไซน์ New England Colonial ราคาเริ่ม 15 – 30 ล้าน ตั้งอยู่ใน Sansiri Chatuchot Community อีกหนึ่งคอมมูนิตี้แห่งใหม่จากแสนสิริ พร้อมเปิดตัวภายในปีนี้

 

จากทั้งสองโครงการฯ เป็นความร่วมมือทางธุรกิจในการร่วมลงทุนพัฒนาโครงอสังหาฯ ระหว่าง แสนสิริ และ มิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) สะท้อนความเชื่อมั่นของพันธมิตรในการทำงานของแสนสิริ

ด้วยจุดแข็ง ความแข็งแกร่งของแบรนด์ ศักยภาพและความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับลักซูรี่

 

ขณะที่ บริษัท มิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของมิตซุย ฟุโดซัง และเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น กลุ่มบริษัทมิตซุย ฟุโดซัง ได้นำความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมมาใช้ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยควบคู่กับการส่งมอบบริการที่ครอบคลุม เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน

 

สำหรับ แผนความร่วมมือกับมิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของแสนสิริตามแผนธุรกิจปี 68 ‘Dynamic Growth ปลุกตลาด สร้างความเชื่อมั่น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคีย์ไดร์เวอร์ สำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร คือ การขยายโอกาสในการลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ เพื่อพัฒนาโครงการ Joint Venture ร่วมกัน

 

ขณะที่ การผนึกกำลังระหว่าง แสนสิริ และ มิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) ยังได้รวมจุดแข็งของผู้นำตลาดในประเทศไทย กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก เพื่อสร้างสรรค์โครงการคุณภาพสูง ตอบสนองความต้องการของตลาดระดับบน พร้อมยกระดับมาตรฐานอสังหาริมทรัพย์ไทยให้ก้าวสู่ระดับสากล

 

อนึ่ง กลุ่มบริษัทมิตซุย ฟุโดซัง ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2556 บริษัท มิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) จำกัด (MFADT) เป็นบริษัทในเครือของมิตซุย ฟุโดซัง จำกัด ในประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อปี 2560 รับผิดชอบกิจกรรมการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของมิตซุย ฟุโดซังในประเทศไทย

 

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทมิตซุย ฟุโดซัง เดินหน้าขยายธุรกิจครอบคลุมทั้งในประเทศไทย ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในประเทศอื่น ๆ รวมถึงสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร จีน ไต้หวัน อินเดีย และออสเตรเลีย

 

โดยการพัฒนาและยกระดับธุรกิจในต่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญและวิสัยทัศน์ระยะยาว ภายใต้แผน INNOVATION 2030 ซึ่งประกาศขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2567

 

ขณะที่ ในปี 2567 บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท มิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) จำกัด จัดตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อพัฒนาสองโครงการสำคัญ ได้แก่ นาราสิริ บางนา กม.10 และ บุราสิริ จตุโชติ มูลค่ารวมกว่า 6 พันล้านบาท

 

Alternate-X สรุปให้

 

แสนสิริเดินหน้ากลยุทธ์ร่วมทุนกับพันธมิตรต่างชาติ ล่าสุดจับมือ มิตซุย ฟุโดซัง จากญี่ปุ่น เปิดก่อน 2 โครงการใหม่ ‘นาราสิริ บางนา กม.10’ บ้านหรูระดับลักซูรี่ และ ‘บุราสิริ จตุโชติ’ บ้านบรรยากาศรีสอร์ทสไตล์โคโลเนียล ทั้งสองโครงการรวมมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวครึ่งหลังปี 2568 สะท้อนความเชื่อมั่นพาร์ทเนอร์ญี่ปุ่น ต่อศักยภาพและความแข็งแกร่งของแบรนด์แสนสิริ เป็นก้าวสำคัญของแสนสิริสู่ การเติบโตแบบ Dynamic Growth และยกระดับอสังหาฯ ไทยสู่เวทีสากล

บทความล่าสุด

COLLABORATE IDEAS, CREATE SUCCESS


FOLLOW US

© 2024 Maxideastudio. All Rights Reserved.