‘รอยัลโอชา’ เจ้าแรกในไทย ส่งขนมไหว้พระจันทร์แพลนต์เบส เจาะวีแกน-รักสุขภาพ

‘รอยัล โอชา’ รับกระแส ‘มัทฉะเลิฟเวอร์’ รายแรกขนมไหว้พระจันทร์แพลนต์เบส  ‘ไส้มัทฉะพิสตาชิโอ’ เจาะตลาดสายรักสุขภาพ-ชาววีแกน รับเทรนด์บริโภตคลาดโลกปีนี้แตะ 7.8 หมื่นล้านบาท

 

วันไหว้พระจันทร์ (จงชิวเจี๋ย) มักตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติจีน โดยปกติมักตรงกับช่วงกลางถึงปลายเดือนกันยายนหรือต้นเดือนตุลาคมของปฏิทินสากล ในปี 2568 ตรงกับวันที่ 6 ตุลาคม

 

สำหรับวันนี้ ยังเป็นเทศกาลสำคัญของชาวจีน ที่ได้ยึดปฏิบัติเพื่อฉลองความกลมเกลียวในครอบครัวและผลผลิตทางการเกษตรตามตำนานที่บอกเล่าต่อกันมา และยังมีผลกับระบบเศรษฐกิจไปพร้อมกันทั่วโลกในย่านที่มีชุมชนชาวจีนพำนักอาศัย อยู่ด้วย

 

โดย ‘DiMarket’ คาดการณ์ว่าขนมไหว้พระจันทร์จะเติบโตที่อัตรา CAGR 3.3 : ข้อมูลเชิงลึกและการคาดการณ์ ระหว่างปี 2568- 2576 ตลาดขนมไหว้พระจันทร์ทั่วโลก ซึ่งมีมูลค่า 2,388.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือราว 7.8 หมื่นล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ/33 บาท) ในปี 2568 นี้

 

ขณะเดียวกัน จะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น จีน อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 3.3% ระหว่างปี 2568 ถึง 2576

 

โดยมีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลต่อการเติบโตนี้ จากความนิยมที่เพิ่มขึ้นของขนมไหว้พระจันทร์หลากหลายรสชาติ นอกเหนือจากรสชาติแบบดั้งเดิม ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

 

รอยัล โอชา ย้ำต่างสร้างจดจำตลาด

 

ด้าน เชฟเกวลิน พิทยานุกุล เชฟผู้วิจัยและพัฒนาเมนูและเจ้าของร้านอาหารรอยัล โอชา กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ปีนี้ ‘รอยัลโอชา’ วางกลยุทธ์สร้างความแตกต่าง (Differentiation Strategy) พัฒนาสินค้าขนมไหว้พระจันทร์  เพื่อรองรับผู้บริโภคกลุ่มมังสวิรัติ หรือ วีแกน โดยนำเสนอเซ็ตขนมไหว้พระจันทร์พิเศษเฉพาะ (เอ็กซ์คลูซีฟ) ภายใต้คอนเซ็ปต์ A Moonlit Celestial Gift – ของขวัญจากจันทรา

 

สำหรับขนมไหว้พระจันทร์ ‘รอยัล โอชา’ จะใช้จุดเด่นวัตถุดิบชั้นเลิศซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำร้าน รวมถึงการนำวัตถุดิบจากท้องถิ่นที่สามารถหารับประทานได้ตามฤดูกาลเท่านั้น ที่ผ่านกระบวนการอย่างพิถีพิถันมาปรุงแต่งให้มีความพิเศษ และสร้างมูลค่าให้เป็นขนมไหว้พระจันทร์ระดับพรีเมียม เพื่อสร้างความแตกต่างในท้องตลาด

 

โดยในปีนี้ รอยัลโอชา ได้พัฒนาขนมไหว้พระจันทร์เพื่อรองรับกลุ่ม ‘มัทฉะเลิฟเวอร์’ ด้วยไส้มัทฉะพิสตาชิโอ ที่คัดสรรมัทฉะคุณภาพเกรดพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเป็นไส้ซิกเนเจอร์ใหม่ประจำร้านไส้ที่ 4 นอกเหนือรสชาติและใส้ดั้งเดิม (Original) ที่ได้รับความนิยม อย่าง ไส้คัสตาร์ด, ไส้ทุเรียนไข่เค็ม และไส้เม็ดบัวเม็ดแตงโม

 

ขณะเดียวกัน ยังได้พัฒนา 2 ไส้พิเศษ ได้แก่ ไส้หมูฝอยน้ำพริกมะขามไข่เค็ม ซึ่งน้ำพริกมะขามเป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน ไส้สาหร่ายงา เป็นการนำวัตถุดิบจากท้องถิ่นทางภาคเหนือ สาหร่ายไกหรือไกยี ที่สามารถหาทานได้ตามฤดูกาลเท่านั้น

 

นอกจากนี้ รอยัล โอชา ยังเป็นรายแรกในประเทศไทย ที่พัฒนาขนมไหว้พระจันทร์ ในรูปแบบเมนูแพลนต์เบสเพ่อรองรับกลุ่มวีแกนที่ไม่นิยมบริโภคเนื้อสัตว์ และขยายไปยังฐานกลุ่มเป้าหมายใหม่สำหรับคนรักสุขภาพ ที่พัฒนาขึ้นโดย เชฟวิชิต มุกุระ

 

เพิ่มมูลค่าด้วยแพคเกจจิง

 

ในส่วนการทำตลาดรอยัล โอชา ยังได้พัฒนาบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบหรูหระดับเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อแสดงถึงรสนิยมของผู้ให้ และสร้างความประทับใจแก่ผู้รับ โดยมีให้เลือกทั้งหมด 2 เซ็ต ได้แก่

 

1.Mooncake Premium Box ที่มาในกล่องสีแดงเข้ม 2 ชั้น พร้อมผ้าเอนกประสงค์สีแดงออมเบรพิมพ์ลายพระจันทร์เต็มดวงสีทองอร่าม ชั้นแรกประกอบด้วย ขนมไหว้พระจันทร์ จำนวน 8 ชิ้น รวมไส้มาทั้งหมด 4 รสชาติ ที่เป็นซิกเนเจอร์ได้แก่ คัสตาร์ด 2 ชิ้น, เม็ดบัวเม็ดแตงโม 2 ชิ้น, ทุเรียนไข่เค็ม 2 ชิ้น และมัทฉะ พิสตาชิโอ (ใหม่) 2 ชิ้น

 

สำหรับกล่องนี้ในชั้นที่ 2 ยังมีความพิเศษเป็น Room Fragrance Diffuser (ก้านน้ำหอม) ในชื่อกลิ่น “Royal Osha” กลิ่นพิเศษที่เป็นกลิ่นซิกเนเจอร์ของร้าน รอยัล โอชา ซึ่งเป็นดั่งภาพสะท้อนของจิตวิญญาณแห่งร้านอาหารไทยที่มีกลิ่นอายของสมุนไพรไทย เครื่องเทศ และดอกไม้หอมละมุน ขนาด 100 ml วางราคา 2,388 บาท

 

2.Mooncake Classic Box ในรูปแบบกล่องทรงกลมมีหูหิ้วสีแดงสด บรรจุมาในกล่องทรงกลมคล้ายปิ่นโต โดย 1 ชั้นสีแดงด้านในกล่องประดับด้วยสีทองหรูหรา ฝากล่องมีหูหิ้วสายหนังสีแดงพร้อมตัวล็อคระหว่างกล่องตัดด้วยโลโก้ รอยัล โอชา และตัวหนังสือสีทองประกายของแสงจันทร์

 

ประกอบด้วย ขนมไหว้พระจันทร์ จำนวน 8 ชิ้น รวมไส้มาทั้งหมด 4 รสชาติซิกเนเจอร์ โดยมี ไส้คัสตาร์ด 2 ชิ้น, ไส้ทุเรียนไข่เค็ม 2 ชิ้น, ไส้เม็ดบัวเม็ดแตงโม 2 ชิ้น และ ไส้มัทฉะพิสตาชิโอ (ใหม่) 2 ชิ้น วางราคา 988 บาท

 

โดยทั้ง 2 เซ็ต สามารถเปลี่ยนเป็นไส้พิเศษ หมูฝอยน้ำพริกมะขามไข่เค็ม และ สาหร่ายงา แต่ต้องสั่งจองล่วงหน้า

 

จากแนวทางดังกล่าวของ รอยัล โอชา เพื่อสร้างการจดจำและผลิตภัณฑ์เอกลักษณ์ของแบรนด์ให้ผู้บริโภคนึกถึงในด้านความต่างขนมไหว้พระจันทร์ เพื่อมีส่วนร่วมส่งมอบทั้งความอร่อย และประสบการณ์ประทับใจ ให้ผู้บริโภคทั้งผู้รับและผู้ให้ตลอดช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ในทุกปี

 

ใส้พิเศษต้องสั่งก่อนล่วงหน้า

 

ด้าน เชฟวิชิต มุกุระ เชฟมิชลินสตาร์ 1 ดาวและเอ็กเซ็กคูทีฟเชฟ ร้านรอยัล โอชา กล่าวว่าแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมไหว้พระจันทร์รอยัล ในเทศกาลขนมไหว้พระจันทร์ในปีนี้ ได้นำ ความเป็นเอกลักษณ์ด้านรสชาติร้านอาหารไทย ให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาขนมไหว้พระจันทร์ 2 ไส้พิเศษดังกล่าว

 

“ไส้หมูฝอยน้ำพริกมะขามไข่เค็ม เพื่อรองรับผู้ที่ชอบของคาว เมื่อได้กัดเข้าไปในคำแรกอยากให้นึกถึงอาหารและความอร่อยจากร้านของเรา และยังเป็นเจ้าแรก ที่ทำไส้ขนมไหว้พระจันทร์เป็นแพลนต์เบส กับ ไส้สาหร่ายงา โดยนำสาหร่ายไก หรือ สาหร่ายไกยี วัตถุดิบประจำท้องถิ่นของทางภาคเหนือ โดยเพิ่มเท็กเจอร์ด้วยเม็ดบัว และความหอมจากงาขาว ซึ่งทั้ง 2 ไส้พิเศษนี้ต้องสั่งจองล่วงหน้า 3 วัน ด้วยสาหร่ายเป็นวัตถุดิบมีเฉพาะตามฤดูกาลเท่านั้น” เชฟวิชิต กล่าว

 

โดย ผู้ที่สนใจขนมไหว้พระจันทร์ในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์นี้ สำหรับใช้ในวันสำคัญ โอกาสสำคัญ กับคนสำคัญ สามารถสั่งได้แล้ววันนี้ทั้ง Mooncake Premium Box และ Mooncake Classic Box สำหรับไส้พิเศษ สาหร่ายงา และหมูฝอยน้ำพริกมะขามไข่เค็ม สามารถสั่งจองล่วงหน้า 3 วัน ณ ร้านรอยัล โอชา สามารถสอบถามรายละเอียด หรือ  สั่งจองได้ที่ Line Official: @royalosha หรือ โทร 02-256-6555, มือถือ 085-489-0571

 

 

Alternate-X สรุปให้

รอยัล โอชา เปิดตัวขนมไหว้พระจันทร์พิเศษ ทั้งแพลนต์เบสรายแรกในไทยและรสชาติใหม่เอ็กซ์คลูซีฟ ในปีนี้มีไส้มัทฉะพิสตาชิโอ มาเอาใจมัทฉะเลิฟเวอร์ และ 2 ไส้ใหม่ หมูฝอยน้ำพริกมะขามไข่เค็ม – สาหร่ายงา พร้อมแพ็กเกจหรู Mooncake Premium Box และ Classic Box เหมาะทั้งผู้ให้และผู้รับ เผยเทรนด์ตลาดโลกขนมไหว้พระจันทร์โตแตะกว่า 2,388 ล้านดอลลาร์ในปี 2568 และโตยาวต่อเนื่อง โดย รอยัล โอชามุ่งสร้างความต่าง ตอกย้ำภาพลักษณ์ขนมไหว้พระจันทร์ระดับพรีเมียมจากไทยสู่ตลาดโลก

 

 

บทความล่าสุด

COLLABORATE IDEAS, CREATE SUCCESS


FOLLOW US

© 2024 Maxideastudio. All Rights Reserved.