ภาษีทรัมป์ไม่กระทบฐานผลิตส่งออกสหรัฐในไทย ต่างชาติอยู่ครบ100% เช่าคลังสินค้า

ตลาดเช่าอาคารคลังสินค้า/โรงงานในไทย แนวโน้มยังดีใน ‘ต่างชาติ’ ต่อสัญญาใหม่ครบ100% หนุน พรอสเพค รีท รักษาอัตราการเช่า 96%

 

อรอนงค์ ชัยธง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ กล่าวว่า สถานการณ์ในไตรมาส 1/2568 แม้จะมีความท้าทายด้านเศรษฐกิจโลกและการเปลี่ยนแปลงของผู้เช่า แต่ภาพรวมการเช่าอาคารคลังสินค้าและโรงงานยังมีแนวโน้มเติบโต

 

โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้เช่าต่างชาติ ซึ่งมีสัญญาณบวกในการเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน รายได้รวมที่ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า เป็นไปตามการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจของผู้เช่า อาทิ ธุรกิจผลิต Solar Cell ซึ่งมีการย้ายออกไปในไตรมาสที่ 1

 

ปัจจุบันมีผู้เช่ารายใหม่ทดแทนรายเดิมเป็นที่เรียบร้อยและจะรับรู้รายได้ในไตรมาสถัดไป ด้วยการกระจายฐานผู้เช่าที่หลากหลายทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมและสัญชาติ จึงยังคงรักษาความแข็งแกร่งด้านอัตราการเช่าและบริหารจัดการพอร์ตได้เป็นอย่างดี”

 

ทั้งนี้ จากการสำรวจผู้เช่าอาคารในโครงการ BFTZ ที่อยู่ภายใต้การจัดการของกองทรัสต์ พบว่าผู้เช่าที่มีการส่งสินค้าออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดหลักนั้นคิดเป็นพื้นที่ส่วนน้อยเมื่อเทียบกับพื้นที่ให้เช่าทั้งหมด ผู้เช่ายังไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา และยังไม่มีแผนเคลื่อนย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นในช่วงเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากหลายประเทศที่เป็นฐานการผลิต อาทิ เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนิเซีย ก็ได้รับผลกระทบ

ขณะเดียวกันการย้ายฐานการผลิตต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูง ประกอบกับความคุ้นชินด้านวัฒนธรรมเกี่ยวกับการอยู่อาศัยและประกอบธุรกิจของผู้เช่าต่างชาติ ที่ยังมองว่าประเทศไทยมีความหลากหลายและยืดหยุ่นมากกว่า

 

โดยผู้เช่าปัจจุบันจะอยู่ในกลุ่มธุรกิจ

 

  • สินค้าอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลและเวชภัณฑ์
  • ธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์
  • ธุรกิจยานยนต์, ธุรกิจหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะ
  • อื่น ๆ

 

ซึ่งประกอบธุรกิจเป็นประเภทโรงงานกว่า 80% ของพื้นที่ให้เช่าทั้งหมดของกองทรัสต์ ส่งผลทำให้มีอัตราการต่อสัญญาของผู้เช่ารายเดิมที่สูงอย่างต่อเนื่อง

 

ทั้งนี้ PROSPECT REIT ได้มีการประกาศจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2568 และประมาณการประโยชน์ตอบแทนระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 15 พฤษภาคม 2568 ในอัตรา 0.3050 บาทต่อหน่วยทรัสต์ ซึ่งจะจ่ายเงินออกให้แก่ผู้ถือหน่วยในวันที่ 15 พฤษภาคม 2568

 

 

อรอนงค์ กล่าวเสริม “ทิศทางการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มีเงินลงทุนรวม 267,664 ล้านบาท ทำให้เห็นว่าประเทศไทยยังมีศักยภาพในการตั้งฐานการผลิต หนุนให้ภาคอุตสาหกรรมเติบโต

 

สำหรับความเคลื่อนไหวของการขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนเพื่อเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 3 ของ PROSPECT REIT ได้รับความสนใจและผลตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยหลังจากจัดโรดโชว์ให้ข้อมูลแก่นักลงทุน โดยจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยเดิมและนักลงทุุนทั่วไปจองซื้อในวันที่ 19-23 พฤษภาคม 2568 นี้

 

ขณะที่ แผนการดำเนินงานในอนาคต ผู้จัดการกองทรัสต์จะมุ่งเน้นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เสริมเสถียรภาพการลงทุนในรูปแบบ Feehold โดยคำนึงถึงผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืนเป็นสำคัญ”

 

ภายหลังจากการเพิ่มทุนเพื่อเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 3 ในทรัพย์สินโครงการ BFTZ 1 ถ.บางนา-ตราด กม.23, โครงการ BFTZ 2 ถ.เทพารักษ์, โครงการ BFTZ 3 ถ.บางนา-ตราด กม.19 จะทำให้ PROSPECT REIT มีพื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้นเป็น 514,010 ตารางเมตร ขยายมูลค่าพอร์ตโตทะลุ 8,700 ล้านบาท

 

Alternate-X สรุปให้

PROSPECT REIT เผยผลกระทบภาษีนำเข้าสหรัฐยังไม่กระทบฐานผู้เช่าต่างชาติต่อสัญญาเช่าครบ 100% หนุนอัตราการเช่ารวมสูงถึง 96% สะท้อนความเชื่อมั่นฐานผลิตในไทยยังมั่นคง เหตุต้นทุนย้ายสูงและไทยมีความยืดหยุ่น พร้อมประกาศจ่ายปันผล 0.3050 บาทต่อหน่วย วันที่ 15 พ.ค. 2568 เดินหน้าเพิ่มทุนครั้งที่ 3 ขยายพอร์ตเช่าทะลุ 8,700 ล้านบาท

 

 

บทความล่าสุด

COLLABORATE IDEAS, CREATE SUCCESS


FOLLOW US

© 2024 Maxideastudio. All Rights Reserved.