‘ทองคำ’ อีกหนึ่งพอร์ตสินทรัพย์สุดคลาสสิค ของนักลงทุนเกือบทุกเจนเนเรอชั่น จากหลายเหตุผลเข้ามาสนับสนุน ทั้งเป็นสินทรัพย์สากล (Universal Asset) อยู่ในรูปแบบทองคำแท่ง เหรียญ หรือ ETF
นอกจากนี้มูลค่าทองคำ ไม่ผูกกับเศรษฐกิจของประเทศใดประเทศหนึ่ง ทำให้เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven Asset) หากเกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เช่น เงินเฟ้อ สงคราม วิกฤตธนาคาร หรือตลาดหุ้นผันผวน
ล้วนเป็นปัจจัยให้นักลงทุนมัก ‘หนีความเสี่ยง’ มาถือทองคำ
โดยเฉพาะป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ (Hedge Against Inflation) ด้วยเมื่อมูลค่าเงินเฟ้อขึ้น เงินซื้อของได้น้อยลง แต่ราคาทองคำมักจะขึ้นตาม ทำให้ยังคงรักษามูลค่าได้ เรียกว่าเป็นการรักษา ‘อำนาจซื้อ’ ของนักลงทุนในระยะยาว
นอกจากนี้ ‘ทองคำ’ ยังมีแนวโน้มมูลค่าเพิ่มในระยะยาว ด้วยทองมีปริมาณจำกัด การผลิตใหม่ช้า ทว่าความต้องการยังคงสูง ทั้งในภาคธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ (เครื่องประดับ) ไปจนถึงอุตสาหกรรม (การลงทุน ธนาคารกลาง) เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม มีประเด็นที่น่าสนใจเมื่อ ‘ทองคำ’ มักมีความสัมพันธ์ผกผันกับสินทรัพย์อื่น ด้วยหากสังเกตว่าทองมักจะขึ้นเมื่อหุ้นหรือดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัว ซึ่งมักนำไปใช้กระจายความเสี่ยง (Diversification) ในพอร์ตลงทุน
ดังนั้น ในช่วงจังหวะนี้ ‘ทองคำ’ อาจยังเป็นพอร์ตสินทรัพย์ที่ยังน่าติดตามในกลุ่ม ‘นักลงทุน’ แต่ยังต้องใช้ข้อมูลประกอบรอบด้านอย่างใกล้ชิด รวมถึงการใช้ ‘เทคนิค’ มาร่วมวิเคราะห์สถานการณ์ราคาทองคำ เพื่อเข้าลงทุนให้เกิดประสิทธิผลตามความพึงพอใจของนักลงทุนได้มากที่สุด
ขณะที่ ‘ดินาโปลี เลเวล’ (DiNapoli Levels) นับเป็นอีกหนึ่ง แนวคิดการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่พัฒนาโดย โจ ดินาโปลี (Joe DiNapoli) นักเทรดและผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์กราฟ ซึ่งใช้กับสินทรัพย์การลงทุนต่าง ๆ รวมถึง ทองคำ เพื่อระบุจุดเข้า-ออกการลงทุนที่มีโอกาสสูง
ล่าสุด ‘โจ ดินาโปลี’ เทรดเดอร์ผู้มีประสบการณ์การลงทุนมากว่า 50ปี ร่วมงานเสวนา Analyzing Gold Trends for 2025 with The DiNapoli Method จัดโดย Fintrade Club ร่วมกับ EBC Financial Group เดินทางมายังประเทศไทยพร้อมแลกเปลี่ยนแนวคิดการลงทุนทอง ด้วยหลักการ ‘DiNapoli Levels’ ใช้พื้นฐานจากสัดส่วนที่เท่ากันทางธรรมชาตินำมาใช้กับการลงทุนเรียกว่า Fibonacci Retracement และ Fibonacci Extensions แต่มีการปรับแต่งสูตรและวิธีใช้งานเฉพาะตัว
โดยมีจุดเด่น การใช้ค่าฟีโบนัชชีที่ปรับมาเฉพาะ เช่น 38.2%, 61.8%, 78.6%, 100%, 161.8% ฯลฯ เพื่อระบุแนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ, เน้นจุดกลับตัว (Reversal Zones) ใช้เพื่อจับจังหวะที่ราคาทองคำอาจ ‘กลับทิศ’ จากขาขึ้นเป็นขาลง หรือในทางกลับกัน
การใช้ช่วงจับจังหวะเข้าซื้อ-ขาย โดยผสมผสานกับดัชนีชีวัด (Indicator) อื่นของ DiNapoli เอง
ทำให้ ‘DiNapoli Levels’ เป็นหนึ่งในเครื่องมือช่วยจับจังหวะเทรด โดยใช้ Fibonacci ที่พัฒนามาเฉพาะเพื่อเพิ่มความแม่นยำ เหมาะกับนักลงทุนทองคำที่ต้องการกลยุทธ์เข้า-ออกอย่างมีระบบ ไม่ใช่แค่การเดาตามเทรนด์
ภาษีทรัมป์มีผลความเคลื่อนไหวราคา ‘ทอง’
ด้าน มนต์ชัย คงธนภักดี ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาระบบวิเคราะห์ ‘DiNapoli’ (Dinapoli Mentoring expert) กล่าวว่า ระบบวิเคราะห์ Dinapoli เริ่มขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 2002 ด้วยรูปแบบเน้นการใช้กลยุทธ์เพื่อกำหนดจุดเหมาะสมในการลงทุนทอง ในระยะเวลาแต่ละช่วงตาม ว่าควรวางออเดอร์ ปิดการซื้อขาย หรือควรวาง Stop loss ที่ช่วงเวลาไหน
พร้อมกล่าวอีกว่าระบบวิเคราะห์ ดินาโปลี เลเวล ยังเสมือนเป็นเครื่องมือที่ต้องฝึกฝนให้เกิดความเชี่ยวชาญ นำไปใช้ปฏิบัติจริงเพื่อให้เกิดประสิทธิผลจนเกิดแม่นยำ มีข้อผิดพลาดให้ได้น้อยที่สุด ซึ่งระบบวิเคราะห์ ดินาโปลี เลเวล สามารภนำไปประยุกต์ใช้กับการลงทุนสินทรัพย์อื่นได้ตามเหมาะสม
“ดินาโปลี เลเวล ยังประยุกต์ใช้กับ Time Frame ระยะเวลาของกราฟที่แสดงขึ้นมา ซึ่งวิธีการที่ดีต่อไทม์เฟรมในทุกๆ 5 นาที หรือ ครึ่งชั่วโมง รวมถึงการใช้ประกอบร่วมกับการหาจุดคำนวนที่เป็นจุดเสี่ยง ด้วย ” มนต์ชัย กล่าวพร้อมสรุปว่า “แนววิเคราะห์ ดินาโปลี เลเวล จะใช้วัดผลความสำเร็จการลงทุนของนักลงทุนได้มากน้อยแค่ไหน จำนวนเงินในบัญชีที่มีอยู่ของนักลงทุนจะถือเป็นคำตอบที่ดีที่สุด”
พร้อมกล่าวต่อ ถึงภาพรวมเศรษฐกิจโลกและในประเทศไทย ที่มีผลต่อราคาทองคำซึ่งมีผันผวน จากหลายปัจจัยเกิดขึ้นตลอดช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเจรากำแพงกาษีทางการค้าของสหรัฐอเมริกา และ ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ที่มีผลต่อความอ่อนไหวของสินทรัพย์การลงทุน รวมถึงเงินอัตราเฟ้อ
“ล้วนเป็นปัจจัยที่มีผลต่อความท้าทายราคาทองคำ ในเวลานี้”
ขณะที่แนวต้านของราคาทองคำคาดว่าจะอยู่ในช่วง 3,720–4,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ‘มนต์ชัย’ ย้ำว่า ราคาทองคำที่ผันผวนในขณะนี้ หรือ การคาดการณ์ราคาทองคำในไทยจะมีราคาต่อบาทอยู่ที่ 54,000 บาทนั้น อาจเป็นแนวคิดที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก ด้วยเป็นชุดตัวเลขที่ไม่มีที่มาและที่ไป ดังนั้นนักลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างระมัดระวัง
เช่นเดียวกับการลงทุนในทองคำมีความเสี่ยง ราคามีความผันผวนตามภาวะตลาดโลก ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ และพิจารณาความเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ก่อนตัดสินใจลงทุน
Alternate-X สรุปให้
ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและเงินเฟ้อ ‘ทองคำ’ ยังเป็นสินทรัพย์ที่หลายเจเนอเรชั่นเชื่อมั่น ด้วยสถานะ Safe Haven Asset ทองคำช่วยป้องกันความเสี่ยงและรักษาอำนาจซื้อ มีความเป็นสากล ไม่ผูกติดกับเศรษฐกิจของประเทศใดประเทศหนึ่ง กลยุทธ์วิเคราะห์ DiNapoli Levels จะช่วยจับจังหวะซื้อขายทอง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการพอร์ตมั่นคง พร้อมเทคนิควิเคราะห์ ที่น่าสนใจ