ทองคำโลก ราคาแรง ผลตอบแทนสูงสุดรอบ 46 ปี YLG มองทองไทยเป้า 5.7 หมื่นบ.

YLG ชี้ทองไทยทำจุดสูงสุดใหม่ 5.7 หมื่นบาทต่อบาททองคำ แรงหนุนจากทองโลกทำ New All Time High เป็นปีที่ทองคำโลกให้ผลตอบแทนมากที่สุดในรอบ 46 ปี มองเป้าหมายทองไทยปีนี้ยังคงที่ 57,000 บาทต่อบาททองคำ

 

พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า ราคาทองไทยขึ้นไปทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 57,000 บาทต่อบาททอง ซึ่งถือว่าถึงเป้าหมายแรกของปีนี้ที่ YLG ให้ไว้ที่ 57,000 บาทต่อบาททองคำเรียบร้อยแล้ว

 

ส่งผลให้นับจากต้นปีจนถึงปัจจุบันราคาทองคำในประเทศพุ่งขึ้นแล้ว 14,350 บาทต่อบาททอง หรือคิดเป็น 33.73% โดยมี 2 ปัจจัยหลักที่สนับสนุนให้ราคาทองคำในประเทศพุ่งขึ้นอย่างร้องแรง ได้แก่

 

1.ราคาทองคาในตลาดโลก เดินหน้าทำ New All Time High เช่นกัน นับจากต้นปีจนถึงปัจจุบันราคาทองคำโลกพุ่งขึ้นมาแล้ว 1,130.64 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ หรือเพิ่มขึ้น 43.48% ถือเป็นปีที่ทองคำโลกให้ผลตอบแทนมากที่สุดในรอบ 46 ปี นับจากปี 2522

 

โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจาก ประเด็นความกังวลเกี่ยวกับการชัตดาวน์ (ปิดตัวชั่วคราว) ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯหลังจากในวันศุกร์วุฒิสภาได้ปฎิเสธร่างงบประมาณระยะสั้นที่สภาผู้แทนราษฎร์ได้อนุมัติมา ซึ่งหากร่างงบประมาณไม่ได้รับการอนุมัติภายในวันที่ 30 ก.ย. ก็จะทำให้รัฐบาลเสี่ยงถูกชัตดาวน์

 

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ออนค่าจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 2 ครั้งภายในปีคือ คือในการประชุมเดือน ต.ค. และ ธ.ค.

 

รวมถึงปัจจัยบวกจากกองทุน SPDR เข้าถือทองคำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาพบการถือครองเพิ่มขึ้น 18.9 ตัน ก่อนจะซื้อเพิ่มในวันจันทร์ 6.01 ตัน ทำให้การถือครอบขึ้นสู่ระดับ 1,000.57 ตัน สูงสุดนับตั้งแต่ เดือน ส.ค. 2565 และยังมีปัจจัยความต้องการทองคำในอินเดียที่แข็งแกร่งตั้งแต่กลางเดือน พ.ย.ปีที่ผ่านมา จนทำให้อินเป็นเป็นผู้บริโภคทองคำเป็นอันดับ 2 ของโลก

 

2 .  การอ่อนค่าของเงินบาทจากดัชนีดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดที่ 95.804  ประกอบกับมีแรงขายหุ้นและพันธบัตรจากความกังวลของต่างชาติในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้มีกระแสเงินไหลออกระยะสั้น

 

 

โอกาสลุ้นเป้า 60,000 บาท

 

ทั้งนี้ YLG ยังคงมองเป้าหมายแรกของทองคำในประเทศไว้ที่ 57,000 บาท หากราคาทะลุเป้าหมายแรกมีโอกาสที่จะทดสอบเป้าหมายถัดไปที่ 60,000 บาทต่อบาททองคำ

 

อย่างไรก็ดีหากเงินบาทแข็งค่าจากระดับปัจจุบันที่ 31.83 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ก็จะส่งผลให้ความเป็นไปได้ที่จะไปทดสอบเป้าหมายถัดไปลดลง ดังนั้นการเคลื่อนไหวของทองคำในประเทศขึ้นอยู่กับค่าเงินบาทอย่างมีนัยสำคัญ

 

ทั้งนี้ หากราคาทองคำไม่ผ่านเป้าหมายแรกที่ 57,000 บาทต่อบาททองคำ แนะนำแบ่งขายทำกำไรบางส่วนแต่ไม่ทั้งหมด และแนะนำให้ซื้อกลับเมื่อย่อตัวหากราคาไม่หลุดแนวรับที่ 55,000 – 50,000 บาทต่อบาททองคำ

 

พวรรณ์ กล่าวว่า นักลงทุนที่สนใจลงทุนกับ YLG สามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆผ่านแอปพลิเคชัน Get Gold by YLG ที่วายแอลจีเปิดให้บริการสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำโดยใช้เงินลงทุนเพียง 100 บาท ได้รับการตอบรับอย่างดี เนื่องจากตอบโจทย์การลงทุนของคนรุ่นใหม่ที่สามารถซื้อ-ขายทองคำ Gold Spot แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง เข้าถึงง่ายด้วยสมาร์ตโฟน และมีความน่าเชื่อถือ ด้านความปลอดภัย สามารถทำกำไรได้จริง

 

โดยผู้สมัครสามารถยืนยันตัวตนพร้อมยื่นเอกสารผ่านแอปพลิเคชัน รู้ผลอนุมัติได้ภายในวันเดียว และสามารถทำการซื้อ-ขาย ทองคำได้ทันที เปิดให้ลงทุนเริ่มที่ 100 บาท ไปจนถึง 80 กิโลกรัมต่อ 1 วัน ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ที่ App Store และ Play Store หรือ LINE : @ylggetgold

 

 

 

Alternate-X 

 

 

ราคาทองคำไทยทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 57,000 บาท/บาททองคำ ตามแรงหนุนทองคำโลก สอดคล้องทองคำโลกปีนี้ให้ผลตอบแทนสูงสุดในรอบ 46 ปี เพิ่มกว่า 43% YLG คาดหากทะลุ 57,000 บาท มีโอกาสทดสอบ 60,000 บาท โดยค่าเงินบาทเป็นปัจจัยสำคัญต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศ แนะนักลงทุนเข้าถึงทองคำง่ายผ่านแอป Get Gold by YLG เริ่มลงทุนเพียง 100 บาท

 

 

 

 

บทความล่าสุด

COLLABORATE IDEAS, CREATE SUCCESS


FOLLOW US

© 2024 Maxideastudio. All Rights Reserved.