เชาว์เลิศ ลีลาศวัฒนกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลัคกี้เฟลม จำกัด ผู้ผลิตและทำตลาดอุปกรณ์ประกอบการทำครัวเตาแก๊ส แบรนด์ ลัคกี้เฟลม (Lucky Flame) เปิดเผยว่าบริษัทฯ วางแนวทางการทำตลาดผลิตภัณฑ์ลัคกี้เฟลม นับจากนี้ไป จะเป็นมากกว่าแบรนด์สินค้าเตาแก๊ส หลังจากอยู่ในตลาดครบรอบ 50 ปีในปีนี้
พร้อมกันนี้ ลัคกี้เฟลม ยังให้ความสำคัญการพัฒนานวัตกรรมสินค้าทั้งด้านการออกแบบและฟังก์ชั่นการใช้งานใน 8 กลุ่มผลิตภัณฑ์ประกอบด้วย
- กลุ่มเตาแก๊สและเตาไฟฟ้า
- กลุ่มเครื่องดูดควัน
- กลุ่มเตาอบ
- กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก
- เครื่องทำน้ำอุ่น
- กลุ่มอ่างล้างจานและก็อกน้ำ
- กลุ่มอุปกรณ์แก๊ส
- ผลิตภัณฑ์สำหรับธุรกิจร้านอาหาร
“แบรนด์ลัคกี้เฟลม เพิ่มไลน์อัปทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก Small Appliance มาตั้งแต่ 2-3 ปีก่อน ซึ่งเป็นโอกาสการขายและขยายฐานผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่ จากกลุ่มเดิมที่คุ้นเคยแบรนด์ในฐานะเตาแก๊ส ที่อยู่ในตลาดมานานร่วม 50ปี”
เชาว์เลิศ กล่าว
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2568 นั้น ซึ่งเป็นความท้าทายและเป็นก้าวใหม่ของ ลัคกี้เฟลม ที่ดำเนินธุรกิจมาถึง 50 ปี โดยบริษัทฯ มุ่งสร้างธุรกิจไปในทิศทางเดียวกับโลกที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายสู่การเป็นแบรนด์ไทยที่มีศักยภาพระดับสากล พร้อมวางแผนทำตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีนี้ อาทิ
- Nexus ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวอัจฉริยะ (Smart Kitchen Appliances) ประกอบด้วยเครื่องดูดควัน (Smart Hood)
- เตาแก๊ซแบบฝัง (Smart Built-in Gas Hob)
- เตาแก๊สอัจฉริยะ i-Hob สามารถเชื่อมต่อ Application บนสมาร์ทโฟน
“บริษัทฯ ให้ความสำคัญการทำสินค้าเน้นฟังก์ชั่นคู่ดีไซน์ให้เป็นส่วนหนึ่งของเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านได้ด้วย รวมถึงเพิ่มความฉลาดในเตาแก๊สรุ่นไอ-ฮอป ที่เชื่อมกับสมาร์ทโฟนของผู้ใช้งานให้สามารถตรวสสอบสภานะการทำงานของเตาแก๊สได้ หากไม่แน่ใจว่าปิดเตาแก๊สก่อนออกจากบ้านหรือยัง ซึ่งรุ่นนี้วางจำหน่ายราคา 24,900 บาท”
นอกจากนั้นยังเตรียมร่วมกับนักออกแบบดีไซเนอร์ชื่อดัง พัฒนาผลิตภัณฑ์ เตาไฟฟ้ารุ่น พิเศษ (Limited Edition) ฉลอง 50 ปี คาดเปิดตัวในไตรมาสสี่ ปีนี้
สำหรับแนวทางการทำตลาดลัคกี้เฟลม จากนี้ไปจะวางตำแหน่งเป็นแบรนด์สินค้าคุณภาพของคนไทยที่มีดีไซน์ในราคาที่เข้าถึงได้ พร้อมรักษาฐานในกลุ่มแม่บ้าน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ (Mass Market) พร้อมให้ความสำคัญกลุ่มลูกค้าในเมืองและคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ประเภท Built-in และสินค้าสำหรับผู้อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม ที่ต้องการความสะดวก ปลอดภัยและเหมาะสมกับพื้นที่จำกัด (Smart Function & Safety Innovation) พร้อมขยายการทำตลาดยุโรปในประเทศเยอรมันนี เป็นครั้งแรกจากก่อนหน้า บริษัทฯ มีตลาดส่งออกในกลุ่มประเทศอาเซียน อาทิ เวียดนาม พม่า อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และ ออสเตรเลีย เป็นหลัก
เชาว์เลิศ กล่าวว่า บริษัทฯ ยังได้ใช้งบลงทุนต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาทใน 3 ปีก่อนหน้า เพื่อขยายกำลังการผลิตสินค้าเพิ่มในโรงงาน 2 แห่งตั้งอยู่ที่ถนนบางนา-ตราด และ ย่านกิ่งแก้ว เพื่อทำตลาดทั้งในและต่างประเทศสัดส่วน 80% และ 20% ตามลำดับ และวางแผนปรับสัดส่วนเป็น 70% และ 30% ในอีก 5 ปีข้างหน้า
ขณะที่สินค้าภายใต้แบรนด์ลัคกี้เฟลม ทั้งหมดถือเป็นแบรนด์คนไทย ใช้ฐานผลิตประเทศไทย (Made in Thailand) ที่ได้รับมาตรฐานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์การรันตีด้านความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค
“เครื่องหมายดังกล่าว มีความสำคัญอย่างมากต่อการเตรียมความพร้อมเพื่อตั้งรับการเข้ามาของสินค้าประเภทเดียวกันจากประเทศจีน ที่จะทะลักเข้ามาในไทยมากขึ้น จากผลกระทบสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ทำให้ประเทศหลังต้องหาตลาดเพื่อระบายการผลิตสินค้าออกจากประเทศจำนวนมาก โดยใช้กลยุทธ์การตัดราคาสินค้าที่ต่ำกว่าผู้เล่นท้องถิ่นในประเทศนั้นๆ
สำหรับเป้าหมายรายได้ในปี 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มได้ 10%ในปี 2567 อยู่ที่ 950 ล้านบาท และคาดว่าในอีก 3ปี จะเติบโตได้ถึง 1,200 ล้านบาท จากปัจจัยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ตลาด และร่วมกับพันธมิตรใหม่ พร้อมทำตลาดส่งออกต่างประเทศ มากขึ้น
Alternate-X สรุปให้
ลัคกี้เฟลม ก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 ด้วยกลยุทธ์ขยายจากแบรนด์เตาแก๊สสู่เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กครบวงจร พร้อมเน้นนวัตกรรมและดีไซน์ทันสมัย เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และตลาดคอนโดฯ ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรป เข้าตลาดเยอรมันนีเป็นครั้งแรกในปีนี้ พร้อมลงทุนต่อเนื่องเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและพัฒนา Smart Appliances เช่น i-Hob เชื่อมต่อมือถือตรวจสอบสถานะการทำงานของเตาแก๊ส ตั้งเป้ารายได้ปี 2568 ที่ 1,000 ล้านบาท และโตต่อเนื่องถึง 1,200 ล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้า