ไทยเบฟฯ ครองส่วนแบ่งตลาดเบียร์ในไทยอันดับ1 ยาวรวด 8 เดือนติด หลังใช้ 2 กลยุทธ์เข้าถึงนักดื่ม ส่วนแผนในตลาดเพื่อนบ้าน เปิดโรงงานใหม่ปลายปีในกัมพูชา แม้จะเป็นตลาดเล็กแต่ก็โตไวสุดในภูมิภาคนี้ รายได้เบียร์ของกลุ่ม 9 เดือนแรกปีนี้แตะ 96,497 ล้านบาท ลดลง 0.3% เทียบปีก่อน
‘นงนุช บูรณะเศรษฐกุล’ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจเบียร์ประเทศไทย บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์-นันแอลกอฮอล์ ระดับภูมิภาค เปิดเผยว่า ภาพรวมผลิตภัณฑ์เบียร์ในพอร์ตไทยเบฟฯ ตราช้าง, อาชา, เฟเดอร์บรอย ปัจจุบันครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 40% ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของตลาดเบียร์ไทย ประมาณ 8 เดือนติดแล้วโดยทิ้งห่างจากผู้เล่นเบอร์ 2 ราว 2%
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมทางการตลาด 2 ช่องทางหลัก ได้แก่
- การตลาดผ่านกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ ดนตรี กีฬา และอาหาร เพื่อเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้บริโภค ทำให้ขยายฐานลูกค้าได้ดีขึ้น
- การขยายเครือข่ายอย่างแข็งแกร่ง ทั้งในช่องทางออนเทรด (On-trade) อาทิ ร้านอาหาร ผับ บาร์ และช่องทางออฟเทรด (Off-trade) เช่น ร้านสะดวกซื้อ โชห่วย ห้าง เป็นต้น

กัมพูชา ดื่มหนักสุดในอาเซียน
ด้าน ไมเคิล ไชน์ ฮิน ฟา ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มธุรกิจเบียร์ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบียร์โค ลิมิเต็ด (BeerCo Limited) ผู้ดำเนินธุรกิจผลิต จัดจำหน่าย และการตลาดผลิตภัณฑ์เบียร์หลายแบรนด์ในไทยและเวียดนาม เปิดเผยว่า บริษัทฯ ใช้งบลงทุนต่อเนื่อง (ปี 2567 – 2568) ราว 2,000 ล้านบาท ตั้งโรงงานผลิตเบียร์ในจังหวัดกันดาล ประเทศกัมพูชา จะมีกำลังผลิต 50 ล้านลิตร/ปี คาดแล้วเสร็จในอีก 2 เดือนข้างหน้า
โดยการจัดตั้งโรงงานพร้อมเดินสายการผลิตได้ตามแผนที่วางไว้ จะทำให้ ต้นทุนราคาเบียร์ในกัมพูชาจะลดลง เพื่อหนุนการทำตลาดจากความต้องการผู้บริโภคท้องถิ่นเติบโตสูงมาก
“ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะผลิตเบียร์แบรนด์ใดในโรงงานใหม่แห่งนี้”
อย่างไรก็ตาม จากความขัดแย้งชายแดนไทยกับกัมพูชา แม้จะสร้างความตึงเครียดในแง่การเมืองจริง แต่ยังไม่เห็นผลกระทบมากนักต่อการบริโภคเบียร์ในกัมพูชา ด้วยเป็นการดำเนินธุรกิจในนามของเบียร์โค ซึ่งเป็นกิจการจดทะเบียนในสิงคโปร์ พร้อมทำตลาดผลิตภัณฑ์เบียร์ที่จากหลายประเทศ อาทิ เบียร์จากญี่ปุ่น เบียร์ไซง่อนจากเวียดนาม เป็นต้น
“แม้ว่าตลาดเบียร์กัมพูชาจะยังเป็นพอร์ตฯ เล็กของกลุ่ม แต่พบการเติบโตที่น่าสนใจ จากอัตราการดื่มเบียร์สูงสุดในอาเซียนในเชิงปริมาณ) ราว 50 ลิตรต่อคนต่อปี”
ปรับแผนรักษาตลาดเวียดนาม-เมียนมา
ด้าน เลสเตอร์ ตัน เต็ก ชวน กรรมการผู้จัดการซาเบโก้ (SABECO-Saigon Beer-Alcohol-Beverage Corporation) คือ ผู้ผลิตเบียร์และเครื่องดื่มรายใหญ่สุดในเวียดนาม (ไทยเบฟถือหุ้นใหญ่) เปิดเผยว่า เบียร์ไซง่อนยังครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ในตลาดเบียร์ประเทศเวียดนาม ด้วยกลยุทธ์การขับเคลื่อนการทำตลาดขยายฐานนักดื่มหน้าใหม่ แม้ในช่วงที่ผ่านมาภาพรวมตลาดเบียร์เวียดนาม จะมีปัจจัยลบจากการบริโภคชะลอตัว
โดยพบว่า พฤติกรรมการบริโภคเบียร์ของคนเวียดนามเปลี่ยนแปลงไป อาทิ
- คนรุ่นใหม่เจนเนอเรชั่นวาย (Gen Y) ดื่มเบียร์น้อยลง
- คนรุ่นใหม่เจนเนอเรชั่นซี (Gen Z) มีแนวโน้มดื่มเบียร์ที่มีเปอร์เซ็นแอลกอฮอลล์น้อยลง
“บริษัทฯ ปรับตัวให้ทันอินไซด์ผู้บริโภค โดยเปิดตัวสินค้าเบียร์ที่มีแอลกอฮอลล์น้อยเพียง 4.3% และลดปริมาณสุทธิลง เพื่อรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่”
นอกจากนี้ บริษัทยังเร่งขยายเครือข่ายช่องทางจัดจำหน่าย เน้นร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) เพื่อเข้าถึงลูกค้าวงกว้างขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทยังติดตามอย่างใกล้ชิด ถึงผลกระทบจากกรณีรัฐสภาเวียดนาม อนุมัติร่างกฎหมายเพิ่มภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ขึ้นเป็น 70% ในปี 2570 และขึ้นอัตราสูงสุดที่ 90% ในปี 2573 จากปัจจุบันมีอัตราภาษี 65%
เลสเตอร์ กล่าวต่อ สำหรับธุรกิจเบียร์ในเมียนมา เป็นอีกตลาดที่ไทยเบฟทำผลงานได้ดี แม้ยังคงมีข้อจำกัดเรื่องสถานการณ์การเมืองภายในประเทศก็ตาม
สะท้อนจากกำลังการผลิตช่วงเริ่มธุรกิจในปี 2562 อยู่ที่ 50 ล้านลิตร/ปี ตอนนี้เพิ่มเป็น 150 ล้านลิตรแล้ว นับว่าเกินเป้าตั้งไว้ใน 5 ปีข้างหน้าไปแล้ว
มุ่งเป้าใหญ่ IPO เบียร์โค
ไมเคิล กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจเบียร์ของไทยเบฟ ใน 9 เดือนแรกปี 2568 ธุรกิจ มีรายได้ 96,497 ล้านบาท ลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) และมี EBITDA 12,573 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% (YoY)
โดยความท้าทายหลัก มาจากกำลังซื้อตลาดเวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ประสบภาวะชะลอตัวลง สวนทางตลาดกัมพูชาที่เติบโตขึ้น ท่ามกลางความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา
พร้อมเสริมถึงสถานการณ์ตลาดเบียร์ในไทย ต่อการเข้ามาทำตลาดเชิงรุกเบียร์ชิงเต่าจากจีนล่าสุด มองว่าตลาดเบียร์ในไทยไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เห็นได้จากในช่วงที่ผ่านมามีผู้เล่นหลายรายพยายามเข้าชิงส่วนแบ่งตลาดเบียร์มูลค่าหลักแสนล้านบาท แต่ยังไม่สามารถตีตลาดได้สำเร็จ
“แม้จะมีปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว แต่เราพยายามผลักดันการเติบโตของธุรกิจเบียร์ ทั้งในแง่วอลลุ่ม และกำไร เพื่อไปสู่เป้าหมายใหญ่ของไทยเบฟเดินหน้าพา BeerCo เข้า IPO”
Alternate-X สรุปให้
พอร์ตเบียร์ช้างของไทยเบฟขึ้นเบอร์ 1 ครองตลาดเบียร์ไทยกว่า 40% หลังใช้ 2 กลยุทธ์หลัก การตลาดเชิงไลฟ์สไตล์ และการขยายเครือข่ายจัดจำหน่าย ส่วนตลาดในอาเซียน ใช้งบลงทุนต่อเนื่อง 2,000 ล้านบาท ตั้งโรงงานเบียร์ใหม่ในกัมพูชา รับดีมานด์ดื่มสูงสุดอาเซียน พร้อมปรับแผนรุกเวียดนาม–เมียนมา แม้เจอความท้าทายเศรษฐกิจและภาษี เดินหน้าพา BeerCo เข้าตลาดหุ้นสิงคโปร์ (IPO) เป็นเป้าหมายใหญ่




