‘CALTEX’ แบรนด์ค้าปลีกน้ำมันสัญชาติอเมริกาที่เข้ามาอยู่ในไทยเกินครึ่งศตวรรษ ล่าสุดกับแผนการตลาดครั้งใหญ่เพื่อพลิกไปสู่แบรนด์ในใจผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ ด้วยคู่จิ้น ‘หลิง-ออม’ ดูโอแบรนด์แอมฯ คาลเท็กซ์ของปี68
เหมินฝัน ธัญสิษฐ์ ผู้บริหารสูงสุดสายการตลาด บริษัทสตาร์ ฟูเอลส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (SEL) ในเครือบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) ผู้รับสิทธิรายเดียวในการทำธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงภายใต้ชื่อ ‘คาลเท็กซ์’ ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2568 บริษัทวางแผนการทำตลาดเชิงรุกธุรกิจน้ำมัน ‘คาลเท็กซ์’ ในไทย เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคชาวไทยทั้งรักษาฐานลูกค้าเดิมที่คุ้นเคยกับแบรนด์คาลเท็กซ์ ในตลาดมากกว่า 60ปี และ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ที่จะเป็นฐานกำลังซื้อสำคัญในอนาคตในทุกตลาด
ด้วยหากแกะความสำเร็จของน้ำมัน ‘คาลเท็กซ์’ ออกมาจะเห็นได้ว่า ผู้บริโภคกลุ่มเดิมที่คุ้นแคยกับแบรนด์ดังกล่าวเป็นอย่างดีต่างเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่วางตำแหน่งระดับพรีเมียมที่ให้ความสบายใจและมั่นใจในทุกครั้งที่เปิดฝาน้ำมันเพิ่มเติมขุมพลังให้กับยานยนต์
แต่ในปัจจุบัน ตลาดค้าปลีกน้ำมันในไทยได้เปลี่ยนแปลงไปมาก ทำให้ในวันนี้ ‘คาลเท็กซ์’ ยิ่งต้องต้องลุกขึ้นมาตะโกนถึงการมีตัวตนในตลาดค้าปลีกน้ำมันในไทย ท่ามกลางการแข่งขันาสุดร้อนแรงในสมรภูมิโปรโมชั่นและการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ด้วย ลอยัลตี โปรแกรม ต่างๆ
โดย ‘คาลเท็กซ์’ จะหยิบผลิตภัณฑ์เด่นอย่าง น้ำมันคาลเท็กซ์ เทครอน (Caltex Techron) มาใช้สื่อสารการทำตลาดด้านประสิทธิภาพของสินค้า ในแคมเปญ ‘เทครอนนนนนนนนน’ ตัวจริงวิ่งไกล
“เป็นอีกหนึ่งความสนุกของการสร้างการจดจำแบรนด์คาลเท็กซ์และเทครอนที่ใช้นอ หนูต่อแถวยาว 9 ตัวเพื่อออกมาตะโกนในตลาดให้ผู้บริโภคได้รับรู้”
เหมินฝัน กล่าวพร้อมเสริมว่า และผู้ที่จะทำหน้าที่ตะโกนเรื่องราวนี้ของคาลเท็กซ์ได้ปังมากทีสุดในวินาทีนี้ ต้องยกให้คู่จิ้นสายยูริ อย่าง ‘หลิง-ออม(หลิง-ศิริลักษณ์ คอง และ ออม-กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์) ที่จะมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์สาวคู่ล่าสุดของคาลเท็กซ์ จากก่อนหน้าที่เป็นนักแสดงชาย อย่าง ‘ณเดช คูกิมิยะ’ และ ‘เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี’ ในช่วงก่อนหน้า
“ทำไมวันนี้ ถึงจะไม่ใช่หลิง-ออม ล่ะ?”
เหมินฝัน ย้ำ พร้อมเสริมต่อถึงแนวคิดการเลือกใช้คู่แบรนด์แอมฯ ที่จะอยู่ภายใต้สัญญาของแบรนดฺคาลเท็กซ์ ตลอดระยะเวลา 1 ปีนับจากนี้ว่า
“2 นักแสดงสาวดังกล่าว จะสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มแฟนด้อมที่รักในตัวศิลปินทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี ด้วยการทำตลาดในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงและแตกต่างไปจากอดีตอย่างมาก การเลือกพรีเซ็นเตอร์ หรือ แบรนด์แอมบาสเดอร์ ที่ถูกต้องถูกจังหวะยิ่งมีส่วนสำคัญในการผลักดันการรับรู้ของแบรนด์ด้วยเช่นกัน”
โดยเฉพาะพลังแห่งแฟนด้อมของคู่จิ้น ‘หลิง-ออม’ ที่คาลเท็กซ์ มองว่า จะเป็นพลังสำคัญเข้ามาช่วยขับเคลื่อนการรับรู้แบรนด์ในวงกว้างไปด้วยพร้อมกัน เห็นได้ชัดในช่วงก่อนเปิดตัวแคมเปญ ‘เทครอนนนนนนนนน ตัวจริงวิ่งไกล’ ในวันที่ 1 มี.ค.2568 นี้ ซึ่งบริษัทฯ ได้ปล่อยตัวกิจกรรมและภาพโฆษณาบางส่วนอย่างไม่เป็นทางการไปก่อนหน้า ซึ่งพบว่าได้การตอบรับเป็นอย่างสูงจากแฟนด้อมหลิง-ออม ที่เป็นผู้กระจายคอนเท้นต์ต่อๆไปในวงกว้าง
ขณะเดียวกัน คาลเท็กซ์ เองก็ได้ทำการสำรวจการรับรู้ในกลุ่มพันธมิตร ดีลเลอร์ตัวแทนขายปลีกน้ำมันคาลเท็กซ์ ซึ่งต่างให้การตอบรับดีถึงการเลือกใช้ ‘หลิง-ออม’ มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ คู่ล่าสุดของแบรนด์ ที่ต่างบอกว่า เป็นความสดใสและสะท้อนความเป็นคนรุ่นใหม่
ย้ำแบรนด์แกร่ง Brandformance
เหมินฝัน กล่าวว่า จากแนวทางดังกล่าว บริษัทวางงบการทำตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขาย (โปรโมชั่น) ราว 200 ล้านบาท แบ่งเป็นงบโฆษณาและแบรนดิ้ง กว่า 110 ล้านบาท ซึ่งจะกระจายไปยังสื่อดั้งเดิม ทั้งการทำภาพยนตร์โฆษณา (TVC) , สื่อนอกบ้าน ป้ายบิลบอร์ด ที่จะตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพที่ตรงกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้ในจุดต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด รวมถึงขยายการทำตลาดผ่านดิจิทัลทีวี และ ในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์แพลตฟอร์มต่างๆ
โดยในนงบฯ ดังกล่าวยังรวมถึงทำโปรโมชั่นแจกน้ำดื่มทุกการเติม 480 บาทต่อใบเสร็จ ให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการสถานีฯคาลเท็กซ์ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ไปถึง 1 มีนาคม 2569
พร้อมกันนี้คาลเท็กซ์ ยังได้พัฒนาแอปพลิเคชั่นใหม่เพื่อสื่อสารกลุ่มเป้าหมายทั้งรายเดิมและขยายฐานคนรุ่นใหม่ ด้วยสิทธิพิเศษและกิจกรรมต่างๆ คาดเปิดตัวราวเดือนพฤศจิกายน ปีนี้ พร้อมวางเป้าหมายมีฐานสมาชิกดาวน์โหลดแอปฯ ราว 2 ล้านราย เพื่อต่อยอดจากฐานบัตรสมาชิกคาลเท็กซ์เดิม ที่มีกว่า 6 แสนราย
“กลยุทธ์การทำตลาดทั้งหมดจะอยู่ภายใต้แนวคิดที่เรียกว่า ‘Brandformance’ (Brand + Performance)”
เหมินฝัน กล่าวพร้อมเสริมว่า ปัจจุบัน คาลเท็กซ์ มีสถานีบริการ(ปั๊ม)น้ำมัน กระจายอยู่ทั่วประเทศราว 528 สาขา โดยมีสัดส่วนสาขาในต่างจังหวัดมากกว่ากรุงเทพฯ และนอกเหนือจากแผนการตลาดครั้งใหญ่ในปีนี้ คาลเท็กซ์ ยังวางแผนผลักดันให้สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ขนาดเล็กขยายสู่ขนาดกลางมากขึ้นในอนาคต
และจากแคมเปญการตลาดในปีนี้คาลเท็กซ์ คาดผลักดันเชิงรายได้สูงขึ้น 15% พร้อมวางเป้าหมายมีส่วนแบ่งตลาดค้าปลีกน้ำมันเชิงปริมาณ (volume) เป็นอันดับ 4 ของตลาด
ทั้งนี้ข้อมูล กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรงพาณิชย์ ระบุส่วนแบ่งการตลาดค้าปลีกน้ำมันเชิงปริมาณ ในปี 2567 ดังนี้
- อันดับ 1 ปตท. (PTT) ราว 35. 93 %
- อันดับ 2 บางจาก ราว 30.94%
- อันดับ 3 พีที (PT) ราว 17.93%
- อันดับ 4 เชลล์ (Shell) 7.75%
- อันดับ 5 คาลเท็กซ์ (Caltex) 5.78%
- อันดับ 6 ซัสโก้ (Susco) 1.85%
บทสรุป
คาลเท็กซ์ดำเนินธุรกิจในไทยมากว่า 60 ปี และปรับกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกในปี 2568 เพื่อขยายฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่ ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดค้าปลีกน้ำมัน โดยเน้นจุดเด่นผลิตภัณฑ์ “คาลเท็กซ์ เทครอน” พร้อมแคมเปญ “เทครอนนนนนนนนน ตัวจริงวิ่งไกล” เพื่อสร้างการจดจำแบรนด์
ต่อการเลือก “หลิง-ออม” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ช่วยดึงดูดแฟนด้อมรุ่นใหม่ และเสริมพลังการตลาดทุกรูปแบบและผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆ โดยคาลเท็กซ์ใช้งบประมาณ 200 ล้านบาทสำหรับโฆษณา โปรโมชั่น และแอปพลิเคชันใหม่ ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ 15% และขยับขึ้นเป็นผู้ค้าปลีกน้ำมันอันดับ 4 ในไทย