โมเดลใหม่ ‘บิ๊กซี’ สู่ ‘Retail Delivery Hub’ มุ่งอีคอมเมิร์ซ-ออนไลน์ อนาคต

บิ๊กซี ทรานส์ฟอร์มองค์กรดิจิทัล ใช้ GIS และ AI พาสู่โมเดล ‘Retail Delivery Hub’ ลดต้นทุนขนส่ง กว่า 12 ล้านบาทต่อปี พร้อมเติมความพอใจให้ลูกค้าขึ้น 50%

 

สุรชัย หิรัญนิธิชัย รองประธานกรรมการบริหารคนที่ 1 ฝ่ายดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี เปิดเผยว่า บิ๊กซี ร่วมกับ บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม Location Intelligence โดยทำงานร่วมกับ บริษัท จีไอเอส จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ในการใช้ ArcGIS Business Analyst

 

ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาโมเดล “Retail Delivery Hub” ออกแบบและบริหารพื้นที่ให้บริการ E-commerce ของสาขา Big C Hypermarket อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อวิเคราะห์คำสั่งซื้อและเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการจัดส่งสินค้า

 

โดยใช้ข้อมูล คำสั่งซื้อที่มีอยู่ร่วมกับการวิเคราะห์เชิงพื้นที่ (Spatial Analysis) เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับขั้นตอนปฏิบัติงานด้านการจำหน่าย ตลอดจนการจัดเตรียมและการจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าที่ใช้บริการสั่งซื้อสินค้าผ่าน Big C Plus Application และ Call Chat Shop จากสาขาที่ให้บริการ รวมถึงสาขาใกล้เคียง ส่งผลให้สามารถลดต้นทุนการขนส่งได้มากกว่า 12 ล้านบาทต่อปี

 

นออจากนี้ ยังเพิ่มระดับคะแนนความพึงพอใจของลูกค้าที่ใช้บริการกับบิ๊กซี ได้สูงขึ้น กว่า 50% ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจในด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย

 

  • ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย: โดยเฉพาะการจัดสรรพื้นที่บริการที่ไม่ซ้ำซ้อน ช่วยลดระยะทางเฉลี่ยในการขนส่งจากจุดคัดส่งสินค้า ส่งผลให้ประหยัดค่าเช่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าแรง และเวลาได้อย่างชัดเจน
  • บริหารทรัพยากรอย่างแม่นยำ: การคำนวนระยะทางอย่างแม่นยำจากหลัก Trade Zone ถูกวางตามศักยภาพของแต่ละสาขา โดยแพลตฟอร์มระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ArcGIS สามารถแสดงผลข้อมูลเป็น Heatmap ระบุจุดหนาแน่นคำสั่งซื้อ พร้อมจัดโซนให้เหมาะกับความสามารถในการรองรับของแต่ละฮับที่กระจายจัดส่งสินค้า ช่วยให้วางแผนและดำเนินงานได้ดียิ่งขึ้น
  • ส่งเสริมความยืดหยุ่น รองรับการปรับแผนการดำเนินงาน: โซลูชันส์ของเทคโนโลยีดังกล่าวถูกออกแบบให้สามารถ Re – Optimize ได้ตลอดเวลา (Real Time) ตามปริมาณคำสั่งซื้อ หรือการเปลี่ยนแปลงเชิงประชากร รองรับการปรับเปลี่ยนแผนงาน ตลอดจนส่งเสริมการวางแผนขยายฐานลูกค้าในอนาคตได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

 

“การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีครั้งนี้ เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกแห่งอนาคต ด้วยการนำศักยภาพเทคโนโลยี GIS วิเคราะห์ข้อมูลร่วมกับเอไอ มาขับเคลื่อนการบริหารจัดการด้านการขนส่งและการบริการลูกค้าอย่างแม่นยำ ซึ่งหลังการเปิดตัวและพัฒนาแอปพลิเคชันดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายออนไลน์เติบโตต่อเนื่อง มากกว่า 25% ต่อปี”
สุรชัย กล่าว

 

ทั้งนี้ บิ๊กซี ยังตอกย้ำภาพลักษณ์องค์กรที่ทันสมัยและยึดหลัก ‘ข้อมูลจริง’ ในการวางกลยุทธ์ อันนำไปสู่การคว้ารางวัล AIBP ASEAN Enterprise Innovation Award สะท้อนความสำเร็จของการนำเทคโนโลยีมาใช้ขับเคลื่อนธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม

 

 

ด้าน แพร พันธุมวนิช ประธานบริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของการประยุกต์ใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่ร่วมกับ AI และเทคโนโลยีอื่น ๆ อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านการลดต้นทุนขนส่ง การวางแผน Trade Zone และการยกระดับคุณภาพบริการ ด้วยซอฟต์แวร์ ArcGIS ที่ผสานกับเทคโนโลยีต่าง ๆ อย่างไร้รอยต่อ และเชื่อมั่นว่าความสำเร็จในครั้งนี้คือจุดเริ่มต้นของการต่อยอดนวัตกรรมร่วมกันในระยะยาว

 

Alternate-X สรุปให้ 

 

‘บิ๊กซี’ เดินหน้าทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ค้าปลีกแห่งอนาคต ด้วยการใช้เทคโนโลยี GIS และ AI พัฒนาโมเดล ‘Retail Delivery Hub’ ด้วยกลยุทธ์นี้มุ่งเน้นการบริหารจัดการพื้นที่และกระบวนการจัดส่งสินค้าอีคอมเมิร์ซให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ส่งผลให้ลดต้นทุนการขนส่งได้มากกว่า 12 ล้านบาทต่อปี และเพิ่มคะแนนความพึงพอใจของลูกค้าสูงขึ้นกว่า 50% นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารทรัพยากร และยอดขายออนไลน์เติบโตต่อเนื่องมากกว่า 25% ต่อปี ย้ำภาพลักษณ์องค์กรที่ทันสมัยและยึดหลักข้อมูลจริงในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความสำเร็จ

 

 

 

บทความล่าสุด

COLLABORATE IDEAS, CREATE SUCCESS


FOLLOW US

© 2024 Maxideastudio. All Rights Reserved.