หนุนกรุงเทพฯ เมืองเที่ยวเชิงประสบการณ์หรู ผ่านร่างทอง JW Marriott รัชดา

หลังจากบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทย ใช้งบลงทุนกว่า 8,704 ล้านบาท เข้าซื้อบริษัท เลอ คองคอร์ด โฮเต็ล จำกัด เจ้าของโรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา จากตระกูล ‘มหาดำรงค์กุล’ ไปเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา

 

โดยแผนดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติให้ใช้เงินกว่า 4,415 ล้านบาท เข้าลงทุนใน บริษัท เลอ คองคอร์ด โฮเต็ล จำกัด และใช้งบอีก 4,289 ล้านบาท เพื่อเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น JW Marriott พร้อมคาดดำเนินการได้เต็มรูปแบบภายในปี 2571

 

ความคืบหน้าล่าสุด ‘วัลลภา ไตรโสรัส’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า จากความร่วมมือระหว่างพันธมิตร แมริออท อินเตอร์เนชันแนล ตลอดช่วงที่ผ่านมาในหลายโครงการ รวมทั้งในในครั้งนี้ได้นำหนึ่งในแบรนด์สำคัญของเครือแมริออท สู่การพัฒนาโรงแรม ‘เจดับบลิว แมริออท แบงก์ค็อก รัชดาภิเษก’

 

โดยโรงแรมแห่งใหม่นี้ วางเป้าหมายเพื่อสร้างนิยามใหม่ให้กับอุตสาหกรรมโรงแรมของไทย ภายใต้แนวคิด AWC’s Lifestyle Destination พร้อมสร้างประสบการณ์ในรูปแบบรีสอร์ตใจกลางเมือง ให้ความหรูหรา ด้วยบริการเวลเนส และความทันสมัย ไว้ภายในพื้นที่โครงการเดียวกัน พร้อมส่งเสริมประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก และสนับสนุนให้กรุงเทพฯ ก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำ สำหรับการประชุมระดับโลกและประสบการณ์การท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ 

 

ด้าน ‘มร. ฌอน ฮิลล์’ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนา ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก  (ไม่รวมประเทศจีน) แมริออท อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า ความร่วมมือกับ AWC ครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งการเดินทางสำคัญของแบรนด์ JW Marriott ในย่านธุรกิจแห่งใหม่ที่มีชีวิตชีวาของกรุงเทพฯ

 

โดยแบรนด์ JW Marriott ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ มร. J. Willard Marriott ผู้ก่อตั้ง แมริออท อินเตอร์เนชันแนล ด้วยปณิธานยึดมั่นความเป็นเลิศและบริการเหนือระดับ สอดคล้องวิสัยทัศน์ AWC ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพในทุกรายละเอียดนั้น และจุดยืนของแบรนด์ JW Marriott  เพื่อส่งมอบประสบการณ์การพักผ่อนระดับหรูหราเหนือระดับอย่างแท้จริง

 

นอกจากนี้ เมื่อเปิดให้บริการโรงแรมแห่งนี้ยังจะได้รับประโยชน์จากเครือข่าย Marriott Bonvoy ที่แข็งแกร่งในการเข้าถึงฐานลูกค้าคุณภาพพร้อมมอบสิทธิประโยชน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟให้แก่สมาชิกทั่วโลก

 

“เครือแมริออทฯ หวังมีส่วนร่วมพัฒนาจุดหมายปลายทางระดับโลกแห่งใหม่ ที่สะท้อนความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของย่านรัชดาภิเษกให้กับนักเดินทางทั้งในกลุ่มนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว” มร. ฌอน กล่าว

 

อนึ่ง AWC ได้เข้าซื้อ อาคาร เลอ คองคอร์ด (Le Concorde Tower) ซึ่งเตรียมเปลี่ยนชื่อเป็น Jubilee Prestige Tower นับเป็นก้าวสำคัญของการขยายธุรกิจเชิงกลยุทธ์ของบริษัทบนถนนรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูงแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ

 

ขณะที่ การพัฒนาโครงการนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่มองหาห้องพักหรู สำนักงานเกรดพรีเมียม ห้องประชุม และสิ่งอำนวยความสะดวกในกลุ่ม MICE โดยจะสามารถสร้างรายได้ในทันทีจากการดำเนินงานโรงแรมแบรนด์ JW Marriott ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับกระแสเงินสดของบริษัทในระยะยาว

 

Jubilee Prestige Tower เป็นโครงการมิกซ์ยูสระดับพรีเมียม มีพื้นที่รวมทั้งสิ้นประมาณ 120,965 ตารางเมตร โดยมีโรงแรม JW Marriott ที่คาดว่าจะมีขนาด 368 ห้อง และอาคารสำนักงานที่ได้รับการออกแบบให้มีความยืดหยุ่นและทันสมัยเพื่อตอบโจทย์ผู้เช่ารุ่นใหม่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับรีสอร์ตและพื้นที่จัดงานรวมกว่า 10,000 ตารางเมตร สร้างสรรค์สภาพแวดล้อมที่ผสานการอยู่อาศัยและการทำงานเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน เหมาะสำหรับความคิดสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกัน และการดูแลสุขภาวะที่สมดุล

 

โดยวางตำแหน่ง เจดับบลิว แมริออท แบงก์ค็อก รัชดาภิเษก โรงแรมหรูระดับลักชัวรีภายใต้แบรนด์สากลแรกของรัชดาภิเษก เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับย่านธุรกิจและการลงทุนที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ โดยประกอบไปด้วย

 

  • พื้นที่จัดงานใหญ่ที่สุดในย่าน สามารถรองรับงานประชุมและอีเวนต์ระดับโลก
  • พื้นที่ Co-living

 

ในขณะเดียวกัน โครงการ Jubilee Prestige Tower ยังได้รับการออกแบบให้สะท้อนแนวคิดของแบรนด์ JW Marriott ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาวะแบบองค์รวม โดยจะประกอบไปด้วยศูนย์ความงาม Beauty Hub สำหรับการเข้าพักเชิงสุขภาพ และศูนย์เวลเนสใจกลางเมือง Urban Wellness Sanctuary ซึ่งพัฒนาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและจิตใจ รวมถึงประสบการณ์อาหารและเครื่องดื่มระดับพรีเมียม อาทิ ห้องอาหารรูฟท็อป ห้องอาหารแบบ All-Day Dining ห้องอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ ห้องอาหารจีนสุดหรู และบาร์ซิการ์และวิสกี้

 

โดย โรงแรม เจดับบลิว แมริออท แบงก์ค็อก รัชดาภิเษก ตั้งอยู่ใจกลางพื้นที่เศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดของกรุงเทพฯ ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT ห้วยขวาง เชื่อมต่อการเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้อย่างสะดวกสบายผ่าน Airport Rail Link สถานีมักกะสัน รายล้อมรอบไปด้วยสถานทูต สถาบันการเงิน และบริษัทข้ามชาติ ด้วยเสน่ห์อันโดดเด่นและศักยภาพไร้ขีดจำกัดของย่านรัชดาภิเษกนี้ จึงสามารถดึงดูดนักเดินทางเชิงธุรกิจและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้เป็นอย่างดี

 

ทั้งนี้ โครงการ Jubilee Prestige Tower ตั้งชื่อตามจุดประสงค์ดั้งเดิมของถนนรัชดาภิเษก ที่ได้รับการสร้างขึ้นเพื่อเป็นพระบรมราชานุสรณ์เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีรัชดาภิเษก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงครองราชย์ครบ 25 ปี (Silver Jubilee)

 

ในขณะที่โรงแรม เจดับบลิว แมริออท แบงก์ค็อก รัชดาภิเษก ถูกพัฒนาขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศไทยในระยะยาว

 

นอกจากโครงการ Jubilee Prestige Tower จะช่วยเสริมพอร์ตโฟลิโอของ AWC ให้แข็งแกร่งขึ้นแล้ว ยังจะสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างยั่งยืนพร้อมเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินได้ในระยะยาว หลังจากการพลิกโฉมสู่การเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกอย่างเต็มรูปแบบ

 

อีกทั้ง ตัวอาคารยังได้รับการตรวจสอบโครงสร้างตามมาตรฐานสามขั้นตอนโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยงานอิสระเพื่อยืนยันความมั่นคงและความปลอดภัยของโครงการ หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในกรุงเทพฯ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ AWC ในการรักษามาตรฐานสูงสุดด้านคุณภาพความปลอดภัยและความเชื่อมั่นสำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน

 

 

Alternate-X สรุปให้ 

AWC ทุ่มงบกว่า 8,700 ล้านบาท ซื้อกิจการโรงแรมสวิสโซเทล รัชดา และรีแบรนด์ใหม่เป็น JW Marriott Bangkok Ratchada โครงการตั้งอยู่ในอาคาร Jubilee Prestige Tower พื้นที่มิกซ์ยูสระดับพรีเมียม บนถนนรัชดาภิเษก มุ่งยกระดับย่านเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวและ MICE ระดับโลก ด้วยบริการหรูหราและเวลเนสครบวงจร การร่วมมือกับ Marriott International สะท้อนวิสัยทัศน์สร้างประสบการณ์ระดับโลกใจกลางกรุงเทพฯ

คาดเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในปี 2571 พร้อมดึงดูดทั้งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

 

 

AWC เป็นบริษัทภายใต้กลุ่มทีซีซี (TCC Group)  พัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจโรงแรมและการบริการ พื้นที่เพื่อการพาณิชย์และสำนักงาน และสถานที่ท่องเที่ยวไลฟ์สไตล์ พร้อมร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก เช่น แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล, ไอเอชจี, โนบุ ฮอสพิทัลลิตี, โอกุระ, บันยันทรี, มีเลีย โฮเทลส์ อินเตอร์เนชั่นแนล, ฮิลตัน โฮเท็ล แอนด์ รีสอร์ท, แอคคอร์ และไฮแอท

 

ประกอบไปด้วย โครงการพาณิชย์ อาทิ อาคาร ‘เอ็มไพร์’, แอทธินี ทาวเวอร์, เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น และ ฟีนิกซ์ รวมถึงจุดหมายปลายทางด้านอาหารและเครื่องดื่ม เช่น เอ-ย่า รูฟท้อป แอท ดิ เอ็มไพร์ นำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารระดับโลก และโครงการอื่นๆ อีกมากมาย

 

ขณะที่ เจดับบลิว แมริออท หนึ่งในแบรนด์ลักซ์ชูรีของแมริออท อินเตอร์เนชันแนล  ปัจจุบันมีโรงแรมและรีสอร์ทภายใต้แบรนด์เจดับบลิว แมริออท เกือบ 125 แห่ง ในกว่า 40 ประเทศและอาณาเขตต่าง ๆ ทั่วโลก

บทความล่าสุด

COLLABORATE IDEAS, CREATE SUCCESS


FOLLOW US

© 2024 Maxideastudio. All Rights Reserved.