Bitget มองเทรนด์ปี 2026 การแปลงหุ้นเป็นโทเคนมาแรงหนุนตลาดคริปโทเติบโตสูง มองช่วยดันวอลลุ่มเทรดหุ้นเทคโนโลยีแตะ 10,000 ล้านดอลลาร์
‘เกรซี่ เฉิน’ (Gracy Chen) กรรมการผู้จัดการ บิตเก็ต (Bitget) แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีและบริษัท Web3 ชั้นนำของโลก กล่าวว่าในปี 2026 จะเห็นระบบการเงินแบบดั้งเดิมเข้าหาเทคโนโลยีการแปลงสินทรัพย์ให้อยู่ในรูปแบบของโทเคนดิจิทัลหรือ Tokenization มากขึ้น
หลังจากที่ปี 2025 นี้ กฎหมาย GENIUS Act ของสหรัฐฯได้ทำให้เกิดกระแสของ Stablecoin เติบโตอย่างรวดเร็วและถูกใช้งานจริงอย่างกว้างขวางมากขึ้น โดยสินทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโตมากที่สุดคือหลักทรัพย์หรือหุ้นที่จะถูกแปลงอยู่ในรูปแบบโทเคนดิจิทัลหรือ Tokenize Equity ที่จะสามารถซื้อขายได้ผ่านแพลตฟอร์มคริปโทรวมถึงแพลตฟอร์มการลงทุนแบบดั้งเดิมจะทำการเพิ่มโปรดักต์ประเภทนี้เข้ามาด้วย
ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต.) สหรัฐฯได้ออกมาอนุญาตให้ DTCC หรือบริษัทกลางชำระหลักทรัพย์สามารถใช้บล็อกเชนในการ Tokenize ตราสารทางการเงินอย่างหุ้นและพันธบัตรต่าง ๆ ถือเป็นพัฒนาการสำคัญที่น่าจับตา
นอกจากนี้ โครงการนำร่องของคณะกรรมการกำกับสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสหรัฐฯหรือ CFTC อนุญาตให้ Bitcoin, Etherereum และเหรียญ USDC สามารถนำมาใช้เป็นสินทรัพย์สำรองสำหรับการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ได้ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดอย่างหนึ่งว่าคริปโทกำลังถูกผสานเข้าสู่ระบบการเงินดั้งเดิมอย่างแท้จริง
“ข้อดีของการซื้อขายหุ้นแบบโทเคนดิจิทัลคือสามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมงเปิดโอกาสให้เทรดเดอร์สามารถเข้าร่วมตลาดได้ข้ามเขตเวลาโดยไม่สะดุด ขณะเดียวกันยังช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรม ลงไปได้อย่างมาก คาดว่าหุ้นที่จะได้รับความนิยมในการซื้อขายบนโทเคนดิจิทัลมากที่สุดคือหุ้นที่เกี่ยวกับคริปโทรวมถึงหุ้นเทคโนโลยีที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันเป็นอย่างดี”
ขณะที่ Bitget ในฐานะแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ยุคใหม่ที่รวมศูนย์ทั้งการเงินแบบดั้งเดิมและสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าไว้ด้วยกัน (Universal Exchange : UEX) มองว่าหลังจากที่ได้เปิดซื้อขายหุ้นสหรัฐฯในรูปแบบโทเคนดิจิทัลได้เห็นปริมาณการซื้อขายที่เติบโตอย่างรวดเร็วโดยตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนพฤศจิกายน ปริมาณการซื้อขายแบบสปอตของโทเคนหุ้นสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 452% เมื่อเทียบรายเดือน
ขณะที่ปริมาณการซื้อขายในตลาดล่วงหน้าพุ่งขึ้นถึง 4,468% เทียบรายเดือนและวอลลุ่มเทรดสะสมรวมตั้งแต่เปิดซื้อขายแตะระดับ 10,000 ล้านดอลลาร์ โดยปริมาณการซื้อขายหลักจะอยู่ที่หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ (Mega-cap) อย่าง Tesla, Meta, MicroStrategy, Apple และกองทุน ETF ที่อ้างอิงกับ Nasdaq-100 สอดคล้องกับพฤติกรรมของตลาดคริปโทที่เชื่อมโยงกับดัชนีหุ้นเทคโนโลยีอย่าง Nasdaq
เกรซี่ เฉิน (Gracy Chen) กรรมการผู้จัดการ บิตเก็ต (Bitget)
โทเคน ดิจิทัล สู่สินทรัพย์หลัก
ล่าสุด Bitget เปิดตัว Bitget TradFi เวอร์ชั่น Private Beta โดยสามารถเทรดตราสารการเงินต่างๆได้บนแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นอัตราแลกเปลี่ยน โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนีตลาดหุ้น โดยใช้เหรียญ USDT เป็นหลักประกัน รองรับความต้องการของนักลงทุนรุ่นใหม่ที่จะเข้าถึงตลาดการเงินแบบดั้งเดิมที่มีมูลค่ารวมกันกว่า 10 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งแพลตฟอร์มนี้จะสนับสนุนให้หุ้นในรูปแบบโทเคนดิจิทัลไม่ใช่แค่การทดลองอีกต่อไป แต่กำลังก้าวสู่การเป็นสินทรัพย์กระแสหลักที่กำลังเป็นที่ต้องการของนักลงทุนระดับโลก ช่วงเวลานี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่ความมั่งคั่งกำลังเปลี่ยนผ่านคริปโท หุ้น ทองคำอัตราแลกเปลี่ยน และสินค้าโภคภัณฑ์ สามารถอยู่ร่วมกันภายใต้ระบบเดียว

3 ปัจจัยหนุนสินทรัพย์ ดิจิทัล
ทั้งนี้ Alternate-X คาดแนวโน้มการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลในช่วงที่ผ่านมา พบว่าเทรนด์ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในปี 2026 คาดว่า จะยังมีการขยายตัวจาก 3 ปัจจัยสนับสนุน
- นโยบายดอกเบี้ยขาลง ตามทิศทางโลก มีผลต่อการฝากเงินหรือลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำอย่างพันธบัตรได้ผลตอบแทนที่ต่ำลง ทำให้นักลงทุนมองหาช่องทางลงทุนอื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า สินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโตเคอร์เรนซีจึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและดึงดูดเงินทุนให้ไหลเข้าสู่ตลาดมากขึ้น
- ตลาดทุนชะลอตัว ในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง หรือมีแนวโน้มให้ผลตอบแทนที่ไม่จูงใจ นักลงทุนอาจย้ายเงินลงทุนออกจากตลาดหุ้นเพื่อกระจายความเสี่ยงหรือแสวงหาโอกาสในตลาดอื่น ทำให้ตลาดคริปโตฯ ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงจึงได้รับอานิสงส์จากเงินทุนส่วนนี้
- การเติบโตเงินที่มีแหล่งที่มาไม่ชัดเจน (เงินสีเทา) ที่ขยายตัวทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา มีผลต่อการโยกย้ายสู่รูปแบบคริปโตฯ ด้วยสามารถถูกโอนย้ายและปกปิดเส้นทางการเงินได้ง่ายกว่า ด้วยมีลักษณะการทำธุรกรรมแบบกระจายศูนย์และยากต่อการตรวจสอบย้อนหลัง อาจทำให้ความต้องการใช้คริปโตฯ เป็นช่องทางในการฟอกเงินหรือหลีกเลี่ยงกฎหมายนี้ ส่งผลให้เกิดเม็ดเงินมหาศาลไหลเข้าสู่ตลาดและทำให้ตลาดขยายตัว
จากปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นแรงผลักดันให้เงินทุนจำนวนมากไหลเข้าสู่ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี ส่งผลให้ตลาดมีแนวโน้มขยายตัวและเติบโตขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้ในปี 2026
Alternate-X สรุปให้
ปี 2569 การลงทุนดิจิทัลเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยโครงสร้าง ทำให้ตลาดหุ้นขาดความน่าสนใจ ความผันผวนเศรษฐกิจโลก ดอกเบี้ย และภูมิรัฐศาสตร์ เขย่าความเชื่อมั่นนักลงทุน นักลงทุนรุ่นใหม่หันมองสินทรัพย์ดิจิทัลที่เข้าถึงง่ายและมีสตอรี่การเติบโตชัดเจน กระแสแปลงหุ้นเป็นโทเคน (Tokenization) กลายเป็นเทรนด์ใหม่ของตลาดทุน โทเคนเปิดโอกาสเพิ่มสภาพคล่องและรูปแบบการลงทุนที่ยืดหยุ่นมากขึ้นในยุคดิจิทัล





