ทำไมสนใจแต่ไม่ซื้อ? ลูกค้า 50–75% หายกลางทาง! VML แนะแบรนด์อุดรอยรั่วเพิ่มรายได้

ซับซ้อนไม่พอ แถมยังย้อนแย้งอีก!!  พฤติกรรมผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่แบรนด์สินค้าต้องเจอท่ามกลางการแข่งขันสูงในตลาดเดียวกัน ที่ยังต้องรอจังหวะกว่าลูกค้าจะตัดสินใจ ‘คลิก’

 

ปัจจุบันหลายแบรนด์กำลังเผชิญปัญหาสำคัญในเส้นทางผู้บริโภค (Consumer Journey) เมื่อพบการหลุดหาย ‘Drop-off’ ระหว่างขั้นตอนการพิจารณา (Consideration) สู่การตัดสินใจซื้อ (Purchase) สูงถึง 50–75% ส่งผลให้ยอดขายไม่เติบโตตามเป้าหมาย และทำให้แบรนด์ สูญเสียโอกาสทางรายได้กว่า 35–55%

 

ปรัตถจริยา ชลายนเดชะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร VML Thailand  เอเยนซี ผู้ให้บริการโซลูชันความคิดสร้างสรรค์ ข้อมูล และเทคโนโลยี กล่าวถึงภาพรวมผู้บริโภคไทยในปัจจุบัน มีความคิดและพฤติกรรมที่ย้อนแย้งกันในตัวผู้บริโภคเอง นำไปสู่ปรากฏการณ์ใหม่ เรียกว่า ‘Consumer Paradox Mindsets’  ‘ความย้อนแย้งในใจ’ ผู้บริโภคไทย ที่แม้จะแสดงความสนใจสินค้า แต่กลับลังเลไม่ซื้อจริง ซึ่งถือเป็นความท้าทายใหญ่ของธุรกิจในยุคนี้

 

จากสถานการณ์ดังกล่าว เป็นผลมาจากความไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลก ทั้งความผันผวนทางเศรษฐกิจ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ กระแสโซเชียลมีเดีย ที่เปลี่ยนแปลงค่านิยม และการดิสรัปชันของเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI เป็นต้น

 

โดย VML Thailand ทำการศึกษาวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้ พร้อมนำผลการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคจากงานวิจัย “The Future 100” และ “Future Shopper” ของ VML ที่จัดทำอย่างต่อเนื่องทั่วโลกมากว่าสิบปี ร่วมกับการสำรวจผู้บริโภคทั่วโลกจำนวนกว่า 45,000 คน พร้อมตรวจสอบความสอดคล้องกับข้อมูลจากพาร์ทเนอร์บริษัทวิจัยชั้นนำอย่าง Kantar, Global Web Index และ Euromonitor มาร่วมวิเคราะห์ เพื่อถอดรหัสความเข้าใจพฤติกรรมที่ย้อนแย้งของผู้บริโภค ถึงปัจจัยที่สร้างความสับสนลังเลในการตัดสินใจด้านต่างของผู้บริโภค ที่ทำให้นักการตลาด แบรนด์ ต้องเสียโอกาสในการขายไป

 

 

โฉมใหม่การตลาดไทย

 

 

ขณะที่ ผลการวิจัยระบุ 4 มิติสำคัญ ที่เป็นตัวอย่างความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ในยุคปัจจุบัน

 

1.The Spending Paradox: Willing to Spend vs. Power to Spend คือความย้อนแย้งใน ‘ความอยากจ่าย’ กับ ‘กำลังในการจ่าย’ แม้จะมีแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่ทำให้กำลังซื้อลดลง

 

แต่ผู้บริโภคชาวไทยโดยเฉพาะ Gen Z กลับมีความอยากที่จะใช้จ่ายในหลายหมวดหมู่สินค้าและโซลูชันมากกว่าทุกเจเนอเรชัน โดยเฉพาะค่าอาหาร เครื่องดื่ม และค่าใช้จ่ายส่วนตัว

 

  • 70% ต้องมองหาแบรนด์ทางเลือกที่ราคาถูกกว่า

 

อย่างไรก็ตาม เกือบครึ่งของผู้บริโภคกลุ่มนี้ยังมีความอยากเก็บเงินและลงทุนเพื่ออนาคต

 

ในขณะที่กลุ่ม Gen X ถึง Baby Boomer ที่มีฐานะดีกว่ากลับเน้นประหยัดกับค่าปัจจัยพื้นฐาน แต่ยังแอบเปิดใจให้กับสินค้าโซลูชันด้านสุขภาพและการแสวงหาประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สนุกสนาน

 

2.The Relationship Paradox: Need to Disconnect vs. Drive to Reconnect ความย้อนแย้งใน ‘การอยากเชื่อมต่อ’ กับ ‘อยากหยุดเชื่อมต่อ’ ถึงแม้ว่าคนไทยกว่า 90% สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้และเชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดียตลอดเวลา

 

แต่ผู้บริโภคชาวไทยเกือบ 80% กำลังพิจารณาเรื่อง ‘การควบคุมปริมาณข้อมูล’ เช่น การเลิกติดตาม หรือ บล็อกโซเชียลมีเดียบางแพลตฟอร์ม

 

  • 71% เริ่มรู้สึกเอียนเทคโนโลยีและต้องการอิสระ
  • 38% ของคนไทย หันมาสนใจกิจกรรมในโลกจริงเพื่อสุขภาพจิตที่ดี

 

อย่างไรก็ตามพวกเขายังมองเทคโนโลยีในแง่ดีมากกว่าแง่ไม่ดี และเชื่อว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับความสามารถในการเชื่อมต่อกับผู้คนและโอกาสในชีวิตที่ดีขึ้นได้

 

3.The Belief Paradox: Demand for Real vs. Crave for Wow คือความย้อนแย้งใน ‘ความต้องการความซื่อสัตย์จริงใจ’ กับ ‘ความโหยหาความตื่นเต้นเซอร์ไพรส์เร้าใจ’

 

จากผลการวิจัยล่าสุดของ VML กับผู้บริโภคไทยพบว่า ความเชื่อมั่นในบุคคล แบรนด์ และอินฟลูเอนเซอร์กำลังถูกท้าทายจากความไม่เชื่อใจของผู้บริโภค เนื่องจากข่าวด้านลบและข่าวปลอมบนโซเชียลมีเดีย

 

  • 80% ของคนไทย กังวลเรื่องข่าวปลอม ขณะที่ความเชื่อมั่นใน AI กลับสูงเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ผู้บริโภคเรียกร้องความจริงและความซื่อสัตย์เป็นคุณค่าสูงสุด โดยต้องการแบรนด์ที่จริงใจ 64% และน่าเชื่อถือ 70%
  • 73% ของคนไทย ยังต้องการแบรนด์ที่บันเทิง ดึงดูดทุกโสตประสาทสัมผัส และสร้างความ ‘ว้าว’ ด้วย ถึงจะเป็นแบรนด์ที่โดดเด่น และเป็น Top of Mind ในใจผู้บริโภค

 

4.The Health & Wellness Paradox: Fear of Aging vs. Joy of Aging คือความย้อนแย้งใน ‘ความกลัวแก่’ กับ ‘ความสุขสนุกของชีวิตในวัยหลังเกษียณ’ เนื่องจากสุขภาพกายและใจเป็นหนึ่งในสองคุณค่าสูงสุดทั้งในหมู่คนไทยและทั่วโลก หมวดสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีจึงเป็นอันดับต้นๆ ที่คนไทยยินดีจ่ายเงินเพิ่ม

  • 70% ของคนไทย กำลังดูแลสุขภาพกาย สุขภาพจิต และจิตวิญญาณอย่างจริงจัง สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ ผู้ที่กลัวความแก่ชรามากที่สุดกลับเป็นคนรุ่นใหม่ Gen Z ซึ่งมองว่าการดูแลรูปลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องลงทุนมากกว่าคนรุ่นอื่น ในทางกลับกัน กลุ่ม Baby Boomer ซึ่งเป็นผู้สูงวัยที่สุดกลับเป็นกลุ่มที่กลัวความแก่น้อยที่สุด โดย 90% เชื่อว่า ‘อายุเป็นเพียงตัวเลข’ และกว่า 50% คิดว่าชีวิตและการใช้ชีวิตเริ่มต้นใหม่ได้หลังอายุ 60 ปี

 

 

อะไร ? ที่ทำให้แบรนด์ไม่โต

 

ปรัตถจริยา กล่าวว่า ปัจจุบันแบรนด์ต่างๆ ไม่ได้ขาด การรับรู้ Awareness แต่กลับประสบปัญหาใหญ่หลวงจากการขาด ‘Effective Push-throug’ วิธีผลักลูกค้าที่สนใจให้ตัดสินใจซื้อจริง (Conversion) และ กลับมาซื้อซ้ำ (Retention) โดยต้องจัดการกับปัญหาสำคัญคือ การหลุดหาย Drop-off ที่ลูกค้าส่วนใหญ่หายไปในขั้นตอนสุดท้าย จากที่ ‘สนใจสินค้า’ แต่ไม่ ‘ซื้อจริง’

 

โดยมีอัตราการหลุดหายจากตัดสินใจสู่การซื้อจริง สูงถึง 50-75% ในทุกอุตสาหกรรม ส่งผลให้แบรนด์สูญเสียโอกาสทางรายได้ถึง 35-55%

“จากรอยรั่วเหล่านี้ ยิ่งไปกว่านั้น ค่าโฆษณาที่แพงขึ้น 2.5-3.5 เท่า กลับเพิ่มคอนเวอร์ชั่น ได้เพียง 5-10% เท่านั้น”  

 

จากข้อมูลเชิงลึกชี้ให้เห็นว่า

 

  • ค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง 8-12% แต่ความคาดหวังจากคุณภาพของสินค้ากลับสูงขึ้น 15-20%
  • ขณะที่ต้นทุนสื่อพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง 15-25% และต้นทุนธุรกิจเพื่อให้ได้ลูกค้า 1 คน (Cost per acquisition) สูงขึ้นถึง 25-45%
  • นอกจากนี้ 68% ของลูกค้าพร้อมเปลี่ยนแบรนด์ใน 1 คลิกหากเจอประสบการณ์ใหม่ของลูกค้า หรือ ข้อเสนอที่ดีกว่าที่ดีกว่า
  • 72% ของคู่แข่งใช้ AI ในการปรับปรุงการขายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด (Optimize Funnel) เพิ่มขึ้น 35% จากปี 2567

 

 

“ทุกการ Drop-off คือรายได้ที่สูญเสียไป ซึ่งการทำความเข้าใจความย้อนแย้งในใจผู้บริโภค เพื่อดึงมุมเหล่านี้มาสร้างความอยากลองอยากมีประสบการณ์กับแบรนด์ เพื่อนำไปสู่โอกาสใหม่ๆ ทางการตลาด”

 

 

โดย VML มองว่าตลาดในปี 2568-2569 นี้ ตลาดจะยิ่งท้าทายขึ้น ผู้บริโภคมีความอดทนน้อยลง และความภักดีต่อแบรนด์เปราะบางลงอย่างมาก

 

 

“แบรนด์ที่จะชนะคือแบรนด์ที่สามารถมอบประสบการณ์ที่ราบรื่น สร้างความผูกพันทางอารมณ์ และขับเคลื่อนผลลัพธ์ได้อย่างแท้จริง”

 

 

ขณะที่ ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดสำหรับแบรนด์คือ การที่ลูกค้าหลุดและรายได้หายโดยไม่รู้ตัว แม้ว่ามรการรับรู้ (Awareness) ดีแต่ยอดขายไม่พุ่ง ลูกค้าเดินเข้าร้านแล้วกลับไปซื้อบนเว็บไซต์อื่น หรือลูกค้าเพิ่มของลงตะกร้าแต่ไม่ซื้อ

 

ทั้งหมดนี้ คือ ‘รูรั่ว’ ที่เกิดจากจุดบอดในประสบการณ์ตลอดเส้นทางของลูกค้า และการสื่อสาร ที่นำไปสู่การหลุดออกจากแบรนด์

 

 

 

ประสบการณ์ลูกค้าต้องราบรื่น

 

ปรัตถจริยา กล่าวว่า จากแนวโน้มดังกล่าว VML ได้เปิดตัว NO LEAK SOLUTION™ โซลูชันปฏิวัติการตลาดยุคใหม่ด้วยความท้าทายเหล่านี้ เพื่ออุดรอยรั่วตลอดเส้นทางของผู้บริโภค พร้อมเปิดโอกาสทางการตลาดเพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้าในมุมที่อาจไม่ได้นึกถึงก่อนหน้านี้ เพื่อนำไปสู่โอกาสของยอดขายใหม่ๆ

 

สำหรับ NO LEAK SOLUTION™ ของ VML Thailand มุ่งออกแบบประสบการณ์แบรนด์ที่ขับเคลื่อนด้วยมนุษย์ที่จะยกระดับประสบการณ์ลูกค้า เพิ่มคุณค่าตลอดเส้นทางของผู้บริโภค และปรับปรุงการค้าให้เหมาะสมเพื่อความได้เปรียบในอนาคต

 

ขณะที่โซลูชั่นนี้ ถูกออกแบบมาบนฐานความเข้าใจ Consumer Paradox Mindsets โดยการรับรู้และยอมรับความย้อนแย้งที่ซับซ้อนในใจผู้บริโภคยุคใหม่ แล้วนำความเข้าใจนั้นมาแปลงเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่สร้างประสบการณ์แบรนด์ที่ตอบสนองทั้งสองด้านของความต้องการที่ขัดแย้งกัน เช่น

 

  • การสร้างประสบการณ์ Phygital ที่ผสานโลกดิจิทัลและโลกจริง
  • การพัฒนา Real Showmanship ที่ผสานความจริงใจกับความตื่นตาตื่นใจ การสร้างความเชื่อและคุณค่าร่วมกันที่ตอบโจทย์ทั้งความอยากจ่ายและขีดจำกัดในการจ่าย
  • การเปลี่ยนมุมมองเรื่องวัยให้เป็น Empowering Journey ในทุกช่วงชีวิต ผ่าน 5 โซลูชันหลักที่จะช่วยปลดล็อกศักยภาพรายได้สูงสุดและขับเคลื่อนเส้นทาง End-to-End แบบไร้รอยรั่ว เพื่อ Conversion และ Retention สูงสุด

 

 

นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วยเทคนิคขั้นสูง เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า การระบุจุดรั่วไหลที่แม่นยำในการค้นหา ‘จุดวิกฤต’ ที่นำไปสู่การลดลงของลูกค้า พร้อมแนวทางแก้ไขที่วัดผลได้โดยนำเสนอโซลูชันที่ปฏิบัติจริงเพื่อแก้ไขปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพ และการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนที่ช่วยรักษาฐานลูกค้า เพิ่มรายได้ และสร้างการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาว

 

 

 

Alternate-X

การตลาดในตอนนี้ หลายแบรนด์เจอปัญหาใหญ่ แม้ลูกค้าสนใจสินค้าแต่ไม่ซื้อจริง เกิด Drop-off สูงถึง 50–75% ส่งผลให้รายได้หายไปกว่า 35–55% แม้จะลงทุนโฆษณาเพิ่ม ค่า Cost per Acquisition ก็พุ่งขึ้นต่อเนื่อง VML Thailand ชี้พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่เต็มไปด้วย ‘ความย้อนแย้ง’ ทั้งอยากจ่ายแต่ไม่กล้า อยากเชื่อมต่อแต่ก็อยากตัดขาด เพื่อแก้โจทย์นี้ VML เปิดตัว NO LEAK SOLUTION™ ปิดรอยรั่วตลอด Consumer Journey ช่วยแบรนด์เพิ่ม Conversion, Retention และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

บทความล่าสุด

COLLABORATE IDEAS, CREATE SUCCESS


FOLLOW US

© 2024 Maxideastudio. All Rights Reserved.