ไพรซ์วอเทอร์เฮาส์คูเปอส์ หรือ พีดับบลิวซี (PricewaterhouseCoopers) หนึ่งในสี่ยักษ์ผู้ตรวจสอบบัญชีระดับโลก เปิดรายงานผลสำรวจเสียงของผู้บริโภค ประจำปี 2568 ฉบับภาพรวมประเทศไทย
ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2568 PwC ได้สำรวจผู้บริโภคจำนวน 21,075 รายใน 28 ประเทศและอาณาเขต รวมถึงผู้บริโภคจากประเทศไทยจำนวน 521 ราย
โดยผลสำรวจภาพรวมระดับโลก ครอบคลุมถึงประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคอาหารและแนวโน้มของผู้บริโภค ได้แก่ พฤติกรรมการซื้อของชำและการเลือกอาหาร อนาคตด้านสุขภาพ เทคโนโลยีเกิดใหม่ และประเด็นสำคัญด้านสภาพภูมิอากาศและความยั่งยืน
งานวิจัย ‘Value in motion’ ของ PwC ได้คาดการณ์ว่า ภายในปี 2568 อุตสาหกรรมอาหารทั่วโลกจะพัฒนาไปสู่ระบบนิเวศที่มีความเชื่อมโยงกันและขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีมากขึ้น โดยมีนวัตกรรม สุขภาพ และความยั่งยืนเป็นแกนหลัก เห็นได้ชัดว่าการเปลี่ยนแปลงนี้กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วยเช่นกัน
ผู้บริโภคในประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตนในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับประทาน การชอปปิง และการเลือกแบรนด์ โดยความคาดหวังของผู้บริโภคเหล่านี้ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่การมองหาตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น ไปจนถึงการให้ความสำคัญกับความยั่งยืน
ด้วยเหตุนี้ธุรกิจที่มุ่งหวังจะเติบโตในตลาดนี้ ควรต้องทำความเข้าใจว่าอะไรเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้
รายงานผลสำรวจเสียงของผู้บริโภค ประจำปี 2568 ฉบับภาพรวมประเทศไทย ได้นำเสนอข้อมูลเชิงลึกล่าสุด เพื่อเปิดเผยว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคกำลังปรับเปลี่ยนอนาคตของอาหารอย่างไร
โดยเราได้ทำการสำรวจตั้งแต่การเลือกอาหารของผู้บริโภคในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงความภักดีต่อแบรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไป
นอกจากนี้ เมื่อสุขภาพ ความยั่งยืน และเทคโนโลยี กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญ เราจะมาเจาะลึกถึงปัจจัยที่ขับเคลื่อนการตัดสินใจซื้อในปัจจุบัน และปัจจัยเหล่านี้มีความสำคัญอย่างไรต่อ “การจัดการอาหารเพื่อเลี้ยงดูประชากร” ในวันข้างหน้า
ผู้บริโภคชาวไทยกำลังรู้สึกถึงแรงกดดันจากโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
- 57% กล่าวว่า ค่าครองชีพจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อประเทศมากที่สุดในอีก 12 เดือนข้างหน้า
- สอดคล้องกับค่าเฉลี่ยทั่วโลก 58% ที่มองว่า ค่าครองชีพเป็นสิ่งที่น่ากังวลที่สุด
ในด้านความมั่นคงทางการเงิน ผู้ตอบแบบสำรวจชาวไทยมากกว่าครึ่ง (53%) มองว่าตนเองมีความมั่นคงทางการเงิน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกเล็กน้อยที่ 46%
อย่างไรก็ตาม ผู้คนจำนวนมากยังคงต้องเผชิญกับความตึงเครียดทางเศรษฐกิจ
- 36% ระบุว่า พวกเขากำลังประคับประคองเรื่องการเงิน
- 8% รู้สึกไม่มั่นคงทางการเงินเลย
ในขณะเดียวกัน การเลือกซื้ออาหารในปัจจุบันของผู้บริโภคชาวไทย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาเพียงอย่างเดียว แต่ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและคุณภาพของอาหารด้วย
- โดย 66% กล่าวว่า มีความกังวลมากเกี่ยวกับการใช้ยาฆ่าแมลงในอาหาร
- ขณะที่ 55% กังวลเกี่ยวกับปริมาณของวัตถุเจือปนอาหารหรือสารกันบูด
- 51% กังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านสุขภาพ จากการบริโภคอาหารแปรรูปขั้นสูง
ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าในขณะที่ผู้บริโภคชาวไทยกำลังรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจด้วยความระมัดระวัง แต่ก็ยังให้ความสำคัญกับสุขภาพและคุณภาพของอาหารที่รับประทานมากขึ้นด้วย
พฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคชาวไทย
ร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม vs ร้านค้าปลีกสมัยใหม่
เมื่อสอบถามเกี่ยวกับความชื่นชอบในการซื้อของชำ ผู้บริโภคชาวไทยส่วนใหญ่ ยังคงนิยมใช้บริการร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อในท้องถิ่น หรือร้านค้าเล็ก ๆ ในชุมชน เป็นต้น
99%
ของผู้บริโภคชาวไทย ใช้บริการร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม
ในขณะเดียวกันผู้บริโภคชาวไทยมากกว่าครึ่ง ก็ได้หันมาใช้บริการค้าปลีกสมัยใหม่ ได้แก่ แพลตฟอร์มสั่งซื้อออนไลน์ และบริการผูกปิ่นโตแบบสมัครสมาชิก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า แม้ผู้บริโภคจะเปิดรับวิธีการชอปปิงออนไลน์ในยุคดิจิทัล แต่พวกเขาก็ยังคงอาศัยการชอปปิงแบบดั้งเดิมเป็นหลัก
54%
ของผู้บริโภคชาวไทย หันมาใช้บริการร้านค้าปลีกสมัยใหม่
ผู้บริโภคชาวไทยแสดงความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพ
สุขภาพเป็นแรงจูงใจสำคัญอย่างปฏิเสธไม่ได้สำหรับผู้บริโภคชาวไทยในการเลือกบริโภคอาหาร ตัวอย่างเช่น
- ประมาณ 40% ระบุว่าพวกเขารับประทานอาหารเสริมหรือวิตามินเป็นประจำเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 30%
แนวโน้มสำคัญที่น่าสังเกตอีกประการหนึ่ง คือ การลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- โดยผู้บริโภคชาวไทยถึง 86% ระบุว่าได้ลดการบริโภคเครื่องดื่มมึนเมา ‘ในระดับมาก’ หรือ ‘ในระดับปานกลาง’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเลือกรับประทานอาหารที่เน้นสุขภาพ (เทียบกับ 75% ทั่วโลก)
นอกจากนี้ ผู้บริโภคชาวไทยส่วนมาก (70%) ยังระบุว่าพยายามหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปขั้นสูงอย่างน้อย ‘ในระดับปานกลาง’
Alternate-X สรุปให้
PwC เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคไทยปี 2568 พบว่าคนไทยกังวลเรื่องค่าครองชีพสูงสุดใน 12 เดือนข้างหน้า โดย ผู้บริโภคกว่า 57% เห็นว่าค่าครองชีพกระทบเศรษฐกิจโดยตรงพฤติกรรมการจับจ่ายเปลี่ยนไป เน้นสุขภาพ คุณภาพ และความปลอดภัยของอาหาร ขณะที่ ธุรกิจอาหารไทยต้องเร่งปรับกลยุทธ์สู่สุขภาพ ความยั่งยืน และเทคโนโลยี