‘ชาบูชิ’ แบรนด์ร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นที่อยู่ในตลาดอาหารไทยมากว่า 20 ปี กำลังเข้าสู่ยุคใหม่หลังสองผู้บริหารกลุ่มโออิชิ โฮลดิ้ง แซม-ไพศาล อ่าวสถาพร และ ศสัย ตังเดชะหิรัญ ประกาศแผน ‘รีเฟรช’ แบรนด์ พร้อมทุ่มหมดหน้าตัก เพื่อเป้าหมายสู่การเป็นแบรนด์ร้านอาหารที่เข้าไปนั่งในใจอันดับแรกๆ ของผู้บริโภคคนรุ่นใหม่
‘ไพศาล อ่าวสถาพร’ ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจอาหาร (ประเทศไทย) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารพอร์ตธุรกิจร้านอาหารในเครือโอชิ โฮลดิ้ง เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางร้านอาหารสไตล์ญีปุ่น ‘ชาบูชิ’ (Shabushi) เป็นแบรนด์ยุทธศาสตร์สำคัญในการทำธุรกิจร้านอาหาร เพื่อปรับภาพจำจากแบรนด์รุ่นใหญ่สู่การเป็นรุ่นใหม่ นับจากนี้ไป
โดย ‘ชาบูชิ’ จะเติมความใหม่ในทุกด้านตั้งแต่ตัวแบรนด์ เมนูวัตุถุดิบอาหาร ไปจนถึงการเลือกเครื่องมือการสื่อสารการตลาดใหม่หมด เรียกว่าเป็นการขยับตัวครั้งใหญ่ของชาบูชิ ในรอบกว่า 20 ปี ก็ว่าได้
“ชาบูชิ เองก็เป็นแบรนด์คนรุ่นใหม่ในตอนนั้นที่มีอายุกว่า 20 ปี เมื่อเวลาผ่านไปถึงตอนนี้คนกลุ่มนั้นก็มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไปแล้ว ซึ่งแบรด์ถือว่าได้ฐานกลุ่มนี้แล้วและจากนี้ไปคือการทำให้แบรนด์ชาบูชิเป็นท็อป ออฟ มายด์ ที่ผู้บริโภครุ่นใหม่ในปัจจุบัน นึกถึงเป็นอันดับแรกๆ” ไพศาล กล่าว
อย่างไรก็ตาม ไพศาล ไม่กล่าวถึงงบลงทุนการรีเฟชรแบรนด์‘ชาบูชิ’ ที่ชัดเจนว่าเตรียมไว้เท่าใด? แต่ย้ำว่า “การรีเฟรชแบรนด์ชาบูชิในครั้งนี้จัดหนักทุกด้าน เรียกว่า มีบ้านขายบ้าน มีรถขายรถ เพื่อการนี้เลยทีเดียว”
‘ชาบูชิ’ ไม่ห่วงสงครามหม้อไฟเดือด
ด้าน ศสัย ตังเตชะหิรัญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทโออิชิ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้บริหารธุรกิจร้านอาหารในเครือโออิชิ กล่าวว่าบริษัทฯ วางตำแหน่งทางการตลาดใหม่แบรนด์ ‘ชาบูชิ’ ที่ให้ความคุ้มค่าและตอบโจทย์ทั้งในกลุ่มอาหารประเภทหม้อไฟ (Hot Pot) และ ซูชิ ซึ่งสอดคล้องกับการรับรู้ของผู้บริโภคทั่วไปรวมถึงในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มองว่า ชาบูชิ เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีทั้งหม้อไฟและซูชิ สายพาน ในที่เดียว
โดยใช้กลยุทธ์การตลาดภายใต้แนวคิด อีโมชันนัล เอ็กซพีเรียนซ์ (Emotional Experience) ด้วยนำจุดแข็งหลักของแบรนด์ ‘รสชาติความสุขไม่สิ้นสุด’ (Good Taste Great Time Never End) ต่อยอดสู่ประสบการณ์เชื่อมโยงทั้งอารมณ์และการรับประทานอาหาร ผ่าน 3 แกนหลัก ประกอบด้วย
- Shabushi ALL-STAR SERIES เมนูชาบู-ชาบู พรีเมียม และวัตถุดิบคุณภาพ ให้ความคุ้มค่าและความอร่อย
- Shabushi SUSHI-MASTER SERIES ยกระดับประสบการณ์ซูชิ ข้าวปั้นหลากหลายหน้า และเมนูใหม่ที่ทำอย่างพิถีพิถัน
- Shabushi Great Moment สร้างความประทับใจด้วยบริการ และ กิจกรรทในร้านเพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมกันตามไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
“ชาบูชิ จะไม่ได้เป็นแค่ร้านอาหาร แต่คือแพลตฟอร์มของคนรุ่นใหม่ที่สร้างโซเชียล บอนดิง ความผูกพันธ์ร่วมกันของยังเจนฯในสังคม” ศสัย กล่าว
ขณะเดียวกัน ชาบูชิ ยังวางแผนสื่อสารการตลาดแบบครบวงจรผ่านเครื่องมือต่างๆ รวมถึงผลิตภาพยนตร์โฆษณาออนไลน์ พร้อมทำงานร่วมกับ #สกายนานิ ‘สกาย-วงศ์รวี นทีธร’ และ ‘นานิ-หิรัญกฤษฎิ์ ช่างคำ’ เป็นตัวแทนความสดใส มิตรภาพ และพลังบวก ในฐานะพรีเซ็นเตอร์คู่แรกของชาบูชิ ซึ่งมีบุคคลิกในทิศทางเดียวกับแบรนด์ พร้อมเปิดตัวแคมเปญ ชาบูชิ x สกาย – นานิ : ALL YOU CAN กรี๊ด เพื่อขยายฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่ ด้วย
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังสร้างประสบการณ์ใหม่จากการรีเฟรชแบรนด์ ชาบูชิให้กับผู้บริโภค โดยนำมาสเตอร์เชฟ ร่วมพัฒนาเมนูซูชิระดับพรีเมียมบนสายพาน โดยนำร่องเปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้าซีคอน สแควร์ ศรีนครินทร์ ก่อนทยอยให้บริการในสาขาอื่นๆ ในอนาคต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการตอกย้ำความคุ้มค่าของชาบูชิ ตามแนวทางการตลาดที่วางไว้
“ชาบูชิ โฟกัสความคุ้มค่า ความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก และไม่ได้วางตำแหน่งทางการตลาดในกลุ่มหม้อไฟเพียงอย่างเดียว แต่เราอยู่ในเซ็กเมนต์หลักที่วางไว้แต่แรกคือเป็นฮอตพอทและซูชิ บนสายพานรายเดียวที่ผู้บริโภคต่างนึกถึงและยังเป็นจุดแข็งสำคัญในการทำตลาด” ศสัย กล่าว
โดยร้านชาบูชิ ให้บริการรูปแบบบุฟเฟต์ต่อคน แบ่งเป็น 3 ราคา คือ ราคา 399 บาท, 499 บาท และ 599 บาท และยังไม่มีแผนปรับราคาสินค้าขึ้นในขณะนี้ โดยปัจจุบันเปิดให้บริการ 190 สาขาทั่วประเทศ บนทำเลหลักขยายสาขาร่วมกับศูนย์การค้าเปิดใหม่ทั้งในกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด โดยในปีงบประมาณของบริษัท (2568-2569) วางแผนขยายสาขาใหม่ราว 10 แห่ง
ศสัย กล่าวว่า จากการเปิดสาขาชาบูชิที่จะไปพร้อมกับการขยายสาขาใหม่ของศูนย์การค้าที่ต้องเปิดปิดในเวลาเดียวกันกับศูนย์ฯ ทำให้ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ 24 ชั่วโมงในทำเลดังกล่าว แต่ก็มีบางสาขาอย่างศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ที่เปิดให้บริการได้ 24 ชั่วโมงที่ตรงกับพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตแบบยืดหยุ่น โดยปัจจุบัน ‘ชาบูชิ’ ครองสัดส่วนรายได้ 80% ในพอร์ตสินค้าอาหารทุกแบรนด์ในเครือโออิชิ
จากแนวทางดังกล่าว แบรนด์ชาบูชิ ยังมองว่าเป็นการปรับตัวเพื่อรองรับการแข่งขันในตลาดอาหารทุกกลุ่ม (Segment) ทั้งสาขาร้านอาหารและสตรีท ฟู้ด มีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 7 แสนล้านบาทและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องทุกปี จากจำนวนทั้งผู้เล่นรายใหม่ที่เข้ามาและผู้เล่นรายเดิมที่หายไปในสัดส่วนใกล้เคียงกันที่ทำให้ตลาดยังมีมูลค่าดังกล่าว ส่วนตลาดอาหารประเภทหม้อไฟคาดมีมูลค่าราว 3 แสนล้านบาท
Alternate-X สรุปให้
‘ชาบูชิ’ รีเฟรชแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบกว่า 20 ปี เพื่อเจาะใจคนรุ่นใหม่ วางภาพลักษณ์ใหม่ ‘คุ้มค่า-ครบเครื่อง’ ทั้งหม้อไฟและซูชิสายพาน เดินหน้าด้วย Emotional Experience เสริมเมนูพรีเมียม พร้อมกิจกรรมในร้าน จับมือดูโอพรีเซ็นเตอร์ ‘สกาย–นานิ’ สื่อสารแบรนด์สดใส–พลังบวก เตรียมขยาย 10 สาขาใหม่ รองรับตลาดอาหาร 7 แสนล้านบาทที่เติบโตต่อเนื่อง